หัวข้อ : เรื่องย่อ ละครสี่องก์ (ถังชีกงจื่อ เขียน ) : องก์ที่ 1 มอบแด่คุณ ผู้ที่ฉันรักอย่างลึกล้ำ

โพสต์เมื่อ 28 ก.ย. 2560, 14:24

องก์ที่ 1
มอบแด่คุณ ผู้ที่ฉันรักอย่างลึกล้ำ

 

เริ่มเรื่อง เนี่ยเฟยเฟย อยู่ในห้องคนไข้ เนี่ยอี้ กับเลขาแซ่ฉู่ออกจากห้องคนไข้ไป และกำลังจะเดินทางไปอเมริกา

ตอนเนี่ยอี้เดินออกไปไกลพอสมควร เนี่ยเฟยเฟยเปิดหน้าต่างมองเขา แล้วตะโกนว่า “freedom!”

เนี่ยอี้สะดุดหัวเกือบทิ่ม ดีที่เลขาฉู่ช่วยจับไว้ทัน เนี่ยอี้หันไปมอง แล้วโทรเข้าอินเตอร์คอมในห้อง สั่งพยาบาลให้จับเนี่ยเฟยเฟยขึ้นเตียงห่มผ้าให้มิดชิด เนี่ยเฟยเฟยรีบต่อรองว่าเธอขอยืนดูเขาจนเขาขึ้นรถแล้วค่อยกลับขึ้นเตียงไปนอน เนี่ยอี้ก็ยอม บอกให้พยาบาลเอาเสื้อหนาวมาให้เธอใส่ซะ

หลังจากเนี่ยอี้ไปแล้ว เนี่ยเฟยเฟยกะเวลาว่าเขาน่าจะขึ้นเครื่องบินเรียบร้อยแล้ว ก็ต้มน้ำชา เทใส่สองถ้วย ใส่ยานอนหลับสองเม็ดในถ้วยนึง ชวนพยาบาลมาดื่มด้วย พอพยาบาลหลับ ก็ถอดชุดพยาบาลมาเปลี่ยน แอบหนีออกไปบ้านคังซู่หลัว เพื่อนสาวที่สนิทมากที่สุด

ก่อนหน้านี้ เนี่ยเฟยเฟยได้วางแผนหนีออกจากโรงพยาบาล จึงโทรนัดให้คังซู่หลัวช่วยหารถให้เธอเตรียมไว้ เมื่อไปถึงบ้านคังซู่หลัว คังซู่หลัวได้เตรียมรถ SUV ที่เก็บของจุและทนทานต่อการถูกชนตามที่เนี่ยเฟยเฟยขอเอาไว้ให้แล้ว

เนี่ยเฟยเฟยวางแผนหนีออกจากโรงพยาบาลและหนีไปจากเนี่ยอี้โดยไม่บอกเหตุผลกับเพื่อน ที่คังซู่หลัวยอมช่วย เพราะเห็นว่าเนี่ยเฟยเฟยรักและตามใจเนี่ยอี้มากไป ควรให้เขาได้รับบทเรียนเสียบ้าง บวกกับได้ยินข่าวลือมาว่าสองคนกำลังรักร้าง จะหย่ากัน เนี่ยอี้นอกใจไปมีคนอื่น จนเนี่ยเฟยเฟยเฮิร์ตมาก ไม่มีกำลังใจจะจัดนิทรรศการแสดงภาพถ่ายมาหนึ่งปีแล้ว (เนี่ยเฟยเฟยเป็นช่างภาพประจำของนิตยสารภาพถ่ายทะเลชื่อดังที่ถนัดถ่ายภาพใต้ทะเลเป็นพิเศษ ฝีมือถ่ายภาพระดับโลก)

เนี่ยเฟยเฟยบอกว่าไม่ต้องไปฟังข่าวลือเหลวไหลพวกนั้น เธอกับเนี่ยอี้ไม่ได้มีปัญหาครอบครัว ไม่ได้ทะเลาะกัน แล้วบอกขอบใจเพื่อน ก่อนจะขับรถจากไป

เนี่ยเฟยเฟยโยนมือถือส่วนตัวทิ้งไป ซื้อมือถือใหม่ จากนั้นคำนวณเวลาที่เนี่ยอี้จะรู้เรื่องและนั่งเครื่องบินย้อนกลับมาตามตัวเธอว่าอีกหลายชั่วโมงมาก เลยเอ้อระเหยแวะซื้อของกินของใช้ติดรถซะเต็มอัตรา ตั้งแต่ผลไม้ยันกระเป๋าเครื่องสำอาง

ตอนอยู่บนทางด่วน เนื่องจากเธอทำน้ำหกใส่แผงปุ่มคำสั่ง แล้วเผลอเช็ดไปโดนปุ่มอะไรสักอย่าง ระบบรถเลยเดี้ยง ตายสนิทกลางทางด่วน

เธอโทรไปแจ้งศูนย์ ทางศูนย์บอกเมืองที่มีศูนย์ของบริษัทอยู่ใกล้ที่สุดอยู่ห่างออกไป 250 กิโลเมตร อีก 4 ชั่วโมงช่างน่าจะไปถึง คุณมีปัญหาอะไรจะแจ้งอีกมั้ย เธอบอกว่าหน้าจอควบคุมของรถคุณซับซ้อนเกิน ฉันงง มีความเป็นไปได้มั้ยที่คุณจะไปเชิญเจ้าหน้าที่ของบ.แอปเปิ้ลมาออกแบบหน้าจอแผงวงจรให้คุณ จะได้มีปุ่ม home ให้กดเวลาไปต่อไม่ถูก ไม่ก็ให้บริษัทคุณเทคโอเวอร์บ.แอปเปิ้ล แล้วเอาเจ้าหน้าที่เทคนิคเขามาพัฒนาแผงวงจรของรถบริษัทคุณ เจ้าหน้าที่ตอบคำถามไปไม่ถูกเลย

ตอนรถเสีย เป็นเวลาค่ำแล้ว รออีก 4 ชั่วโมงนี่คือยังไงก็ต้องหาทางเข้าเมืองไปหาโรงแรมค้างคืนก่อน เนี่ยเฟยเฟยตัดใจเลือกของกินของใช้จำเป็นใส่เป้สะพายหลังจนตุง ออกมายืนโบกรถขอติดเข้าเมือง

รถผ่านไป 4 คันอย่างไม่ไยดีเธอ พอคันที่ 5 มาจอด เธอตกใจ สงสัยว่าจอดเพราะล้อแตกหรือเปล่าเนี่ย ปรากฏว่าผู้ชายที่ลงจากรถสปอร์ตอย่างหรูมายืนย้อนแสง เห็นหน้าเธอปุ๊บ ก็เรียกชื่อเธอออกมาอย่างไม่แน่ใจว่า “เนี่ยเฟยเฟย?”

เนี่ยเฟยเฟยหยีตาดูหน้าอีกฝ่าย เรียกอย่างแปลกใจมากเหมือนกันว่า “หร่วนอี้เฉิน?”

 

จากนั้นเป็นการย้อนอดีตเรื่องราวของเนี่ยเฟยเฟยกับหร่วนอี้เฉิน

 

เนี่ยเฟยเฟยเกิดในตระกุลนักธุรกิจ จัดว่าเป็นคนสวยมาก แต่ไม่ถึงขนาดหยาดฟ้ามาดิน บุคลิกนิสัยมีเอกลักษณ์สุดๆ โลกส่วนตัวสูง ไม่ค่อยแยแสความคิดเห็นของคนรอบข้าง กล้าคิด กล้าพูด กล้าทำ และเป็นผู้หญิงที่มีเสน่ห์อย่างโดดเด่นมาก เท่มาก ชอบถ่ายรูปทะเลเป็นชีวิตจิตใจ

ด้วยความที่เกิดมาในตระกูลนักธุรกิจ พ่อเป็นนักธุรกิจรวยเอาการ แม่เป็นกวี มีอารมณ์กวีสูงมาก เธอเป็นลูกสาวคนเดียว ในวงการธุรกิจ การดูตัวเพื่อแต่งงานตามความเหมาะสมเป็นเรื่องปกติ แต่เนื่องจากแม่ของเนี่ยเฟยเฟยเป็นกวี และพ่อแต่งงานกับแม่เพราะความรัก เธอจึงโชคดีในเรื่องนี้ ที่ไม่ต้องโดนพ่อแม่บังคับ

พ่อแม่บอกเธอว่า ให้เธอลองดูตัวกับลูกหลานนักธุรกิจในวงการด้วยกันไปก่อน ถ้าไม่ถูกใจก็หาคนอื่นมาดูตัวไปเรื่อยๆ  ถ้าถูกใจก็ลองคบกันดู คบกันแล้วไม่โอเค ก็เป็นเพื่อนกันต่อ วันหน้ายังติดต่อขอความช่วยเหลือกันได้ ถ้าดูตัวกับลูกหลานนักธุรกิจด้วยกันหมดแล้วยังไม่เจอที่ถูกใจ ค่อยมองหาคนนอกวงการ ไม่ใช่ว่าจะบังคับให้แต่ง เนี่ยเฟยเฟยคิดตามแล้วก็เห็นว่าจริง และมันก็ไม่ได้เสียหายอะไร

ดูตัวรายแรกกับรายที่ 2 หน้าตาแย่มากไป เนี่ยเฟยเฟยเลยไม่เอา แม่เธอเริ่มจับทางเธอได้ คู่ดูตัวรายที่สามของเธอจึงเป็นหร่วนอี้เฉินที่เป็นลูกชายนักธุรกิจใหญ่เหมือนกัน เป็นรุ่นพี่ที่มหาวิทยาลัยของเนี่ยเฟยเฟย

ตอนนั้นเนี่ยเฟยเฟยอายุ 18 ปี เรียนอยู่ปี 1 เธอกับหร่วนอี้เฉินเรียนคนละคณะกัน เธอเรียนคณะชีววิทยา หร่วนอี้เฉินเรียนคณะบริหารธุรกิจ วิชาโทออกแบบอัญมณี ถึงจะเรียนคนละคณะ แต่อยู่ชมรมเดียวกัน คือชมรมถ่ายภาพใต้ทะเล เคยไปทัศนศึกษากับชมรมด้วยกันหลายครั้ง ระดับที่พอจะรู้ว่าในชมรมมีคนคนนี้อยู่ แต่ไม่ได้สนิทกัน เจอหน้าก็พยักหน้าให้กัน ไม่เคยคุยกัน

หร่วนอี้เฉินหล่อมากกกกกระดับดาวมหาลัย หน้าเข้มแบบมีเชื้อฝรั่ง ตัวสูงหุ่นดีหน้าตาดีครบสูตร บ้านก็รวยมาก นิสัยเหมือนเด็กเกเร คบคนยาก ไม่ชอบสุงสิงกับใคร ชอบโดดเรียนวิชาเอกเป็นประจำ แต่วิชาโทเรียนได้ดีมากขนาดร้านอัญมณีมาจ้างเขาออกแบบ มีมอเตอร์ไซค์คันใหญ่เป็นรถประจำตัว

เนี่ยเฟยเฟยคิดว่าที่เธอกับหร่วนอี้เฉินไม่คิดจะพูดคุยทำความรู้จักกันทั้งที่อยู่ชมรมเดียวกัน เพราะเธอกับเขานิสัยเย็นชา ไม่แยแสผู้คนรอบตัวเหมือนกัน จึงต่างคนต่างรักษาระยะห่างระหว่างกัน เหมือนเสือสองตัวอยู่ถ้ำเดียวกันไม่ได้

เนี่ยเฟยเฟยเคยคุยกับหร่วนอี้เฉินแค่ครั้งเดียว คือตอนที่หัวหน้าชมรมป่วยเป็นหวัด เจ็บคอ จึงวานให้เธอช่วยโทรไปถามสมาชิกชมรมทีละคนว่า ใครจะไปออกค่ายนอกสถานที่ครั้งล่าสุดนี้บ้าง พอเธอโทรหาหร่วนอี้เฉินและถามออกไป หร่วนอี้เฉินย้อนถามว่า “เนี่ยเฟยเฟย?” เนี่ยเฟยเฟยบอกว่า “ฉันเอง คุณจะไปมั้ย?” หร่วนอี้เฉินถามอีกว่าทำไมคุณถึงมาถามผม? เนี่ยเฟยเฟยก็อธิบายไปว่าประธานชมรมเจ็บคอ เลยวานเธอไล่โทรถามสมาชิกชมรมทีละคน ตบท้ายด้วยการถามซ้ำว่า ตกลงคุณจะไปมั้ย?

หร่วนอี้เฉินไม่ตอบ วางหูใส่เลย เนี่ยเฟยเฟยก็งงว่าอะไรของเขาเนี่ย

ตกลงว่าทัศนศึกษาครั้งนั้นหร่วนอี้เฉินไม่ได้ไป ส่วนเนี่ยเฟยเฟยก็ไปทัศนศึกษาอย่างสนุกสนานแฮปปี้ แต่เหตุการณ์นี้ทำให้เนี่ยเฟยเฟยคิดว่า หร่วนอี้เฉินน่าจะไม่ค่อยชอบหน้าเธอนัก

กลับจากดูตัวกับหร่วนอี้เฉิน เนี่ยเฟยเฟยบอกแม่ว่าหนนี้คงชวดอีกตามเคย เพราะหร่วนอี้เฉินไม่ชอบเธอ แต่ปรากฏว่าวันรุ่งขึ้น ทางบ้านฝ่ายชายตอบมาว่ายินดีลองคบกันดู เนี่ยเฟยเฟยจึงตกลงคบด้วยอย่างงงๆ

 

มหาวิทยาลัยที่เนี่ยเฟยเฟยจึงกับหร่วนอี้เฉินเรียน คือมหาวิทยาลัย S

เมื่อได้ตกลงกันแล้วว่าจะลองคบกันดู ตามธรรมเนียมของการดูตัว เนี่ยเฟยเฟยจึงทำตัวเป็นแฟนสาวที่ดี ค่อยส่งข้อความทางมือถือไปรายงานหร่วนอี้เฉินตลอดว่าเธอกำลังจะไปเรียนวิชานั้นวิชานี้

หลังจากขยันส่งข้อความไปให้ได้หนึ่งสัปดาห์ สัปดาห์ถัดไป ก็พบว่าหร่วนอี้เฉินมา sit in วิชาที่เธอเรียนด้วย เป็นวิชาเกี่ยวกับสัตว์ในทะเล เธอก็คิดว่าหมอนี่สนใจทะเลมากจริงๆ

ในคาบเรียน เนื่องจากที่นั่งเต็มหมด เหลือที่ว่างแค่ข้างๆ หร่วนอี้เฉิน เนี่ยเฟยเฟยจึงไปนั่ง

เมื่อเรียนจบคาบ เธอก็ทักหร่วนอี้เฉินว่า นายสนใจวิชานี้เหรอ? หร่วนอี้เฉินทำหน้างง ย้อนถามว่าที่เธอส่งข้อความมาให้ผม ไม่ใช่เพราะอยากให้ผมมานั่งเรียนเป็นเพื่อนหรอกเหรอ? เนี่ยเฟยเฟยบอกเปล่า ที่ส่งข้อความไปให้ แค่ต้องการรายงานความเคลื่อนไหวตามหน้าที่แฟนที่ดีเขาทำกันเท่านั้น จากนั้นเนื่องจากเลิกเรียนวิชานี้แล้วเป็นช่วงพักเที่ยงพอดี เธอจึงชวนเขาไปกินข้าวด้วยกัน หร่วนอี้เฉินทำหน้ารู้ทัน ถามว่าจงใจชวนเขามานั่งเรียนด้วย เพราะอยากจะชวนไปกินข้าวด้วยกันนี่เองสินะ?

เนี่ยเฟยเฟยทำหน้า -__- ตอบไปว่า งั้นถือเสียว่าฉันไม่ได้พูดชวนก็แล้วกัน ทำท่าจะเดินจากไป แต่หร่วนอี้เฉินบอก เขาจะพาไปกินข้าวที่ร้านดีๆ แล้วดึงมือเธอตามเขาไป

 

หลังจากนั้น หร่วนอี้เฉินจะมา sit in ในคาบเรียนของเนี่ยเฟยเฟยที่เลิกเรียนตอนพักเที่ยงพอดีทุกวัน เรียนเสร็จก็ไปกินข้าวเที่ยงด้วยกัน ด้วยมารยาท เนี่ยเฟยเฟยจึงตามไป sit in คาบเรียนของหร่วนอี้เฉินบ้าง แต่ดันไปตรงกับคาบที่เขาโดดเรียนทุกที

ต่อมาไม่นาน ในมหาวิทยาลัยก็ลือกันให้แซ่ดว่าเนี่ยเฟยเฟยตามตื๊อตามจีบหร่วนอี้เฉิน แถมจีบติดด้วย

เรื่องของเรื่องคือหร่วนอี้เฉินเนื้อหอมมาก แต่เขาแผ่รังสีอำมหิตของเด็กเก จึงไม่มีใครกล้าเข้าไปยุ่ง และไม่เคยมีข่าวว่ามีแฟน จึงไม่มีใครรู้ว่าเขาชอบผู้ชายหรือผู้หญิง ทำให้ไม่มีสาวไหนหนุ่มไหนกล้าจีบ แต่คนแอบชอบเขาเยอะมากทั้งชายและหญิง อยู่ดีๆ เนี่ยเฟยเฟยก็กล้าเข้าไปจีบ แถมจีบติดอย่างง่ายดาย คนที่อยากได้เขาเป็นแฟนทุกคนจึงผิดคาดมาก + เจ็บใจมาก และพยายามแช่งให้สองคนเลิกกันเร็วๆ จะได้เข้าเสียบแทนเนี่ยเฟยเฟย

นี่คือ “ข้อมูล” ที่เนี่ยเฟยเฟยรู้มาจากประธานชมรมถ่ายภาพใต้ทะเลที่เธอสนิทด้วยมาก (ประธานเป็นผู้หญิง) นั่นคือ นี่เป็นข้อมูลจากฝั่งผู้หญิง ในเนื้อเรื่อง จะมีข้อมูลของฝั่งผู้ชายอยู่ด้วย

นอกจากไปกินข้าวด้วยกันทุกวันแล้ว เนื่องจากพ่อของเนี่ยเฟยเฟยเป็นสปอนเซอร์ให้รายการโทรทัศน์หลายรายการ จึงมักจะได้ตั๋วหนัง ตั๋วละคร ตั๋วดูดนตรีดีๆ มาบ่อยๆ ซึ่งพ่อเธอไม่ชอบไปดู

ตามสูตรการนัดเดต ควรต้องไปดูของพวกนี้ ในเมื่อมีตั๋วฟรี เนี่ยเฟยเฟยจึงนัดหร่วนอี้เฉินไปดูด้วยกัน และหร่วนอี้เฉินจะมาตามนัดตรงเวลาทุกครั้ง

 

เนี่ยเฟยเฟยกับหร่วนอี้เฉินคบเป็นแฟนกันได้ราวๆ 2-3 เดือน ผู้ใหญ่ของทั้งสองบ้านเห็นลูกสองคนไปกันได้สวย ก็เริ่มคุยเรื่องหมั้นหมายกัน

แม่ของเนี่ยเฟยเฟยถามลูกสาวว่า ลูกรักหร่วนอี้เฉินมั้ย?

เนี่ยเฟยเฟยย้อนถามว่าความรักคืออะไร?

ด้วยความเป็นกวี คุณแม่ก็เปรียบเปรยว่าความรักเป็นเสมือนเมล็ดพันธุ์ดอกไม้ที่ถูกปลูกอยู่ในเรือนกระจกโดยไม่ยอมแตกยอด แต่แล้ววันหนึ่งเมื่อแสงแดดสาดส่องเข้ามา มันก็ดิ้นรนแตกยอดเติบโตจนผลิดอกอันแสนงดงามรับแสงแดดอย่างรวดเร็ว

เนี่ยเฟยเฟยบอกว่าคุณแม่ขา บุคลาธิษฐานนี้ของแม่มันระดับเด็กมหาวิทยาลัย ยากเกินเลเวลหนูจะเข้าใจ คุณแม่มีเวอร์ชันที่เด็กประถมหรือเด็กม.ต้นสามารถเข้าใจได้ง่ายๆ บ้างไหมคะ?

แม่เธอก็ถอนหายใจ บอกว่าท่าทางลูกจะไม่ได้รักหร่วนอี้เฉิน เรื่องหมั้น แม่จะไปคุยกับพ่อเขาให้เลื่อนเวลาออกไปก่อนก็แล้วกัน

ถัดจากการถามของแม่ ไม่กี่คืนถัดมา ฝนตกหนัก หร่วนอี้เฉินโทรมาหาเนี่ยเฟยเฟย นัดออกไปพบกันหน้าบ้านของเธอ เนี่ยเฟยเฟยถือร่มออกไป เจอหร่วนอี้เฉินขี่มอเตอร์ไซค์คันใหญ่ของเขาจอด ตากฝนเปียกโชกรออยู่ ก็รีบวิ่งเข้าไปกางร่มให้

หร่วนอี้เฉินถามเธอว่าทำไมถึงมาคบกับเขา และทำไมถึงยินดีหมั้นกับเขา?

เนี่ยเฟยเฟยเพิ่งจะเริ่มตอบว่า เพราะแม่เธอบอกว่า... ยังพูดไม่ทันจบ หร่วนอี้เฉินก็ขัดขึ้นก่อนว่า นี่เธอมาคบกับฉันเพราะแม่เธอบอกเรอะ? แล้วที่ยอมหมั้นด้วยนี่ก็เพราะพ่อแม่สั่งด้วยงั้นสิ? เธอไม่มีความคิดของตัวเองเลยเรอะ?

เนี่ยเฟยเฟยกำลังจะอธิบายว่าฉันมีความคิดของตัวเองนะ แต่พูดไม่ทันเขา หร่วนอี้เฉินใส่อีกว่า โดนพ่อแม่สั่งให้ทำอย่างนั้นอย่างนี้นี่ เธอไม่โกรธบ้างเลยหรือไง?

เนี่ยเฟยเฟยเห็นท่าทางเขาผิดปกติมาก ก็ถามออกไปว่า หร่วนอี้เฉิน นายเป็นอะไรไป?

หร่วนอี้เฉินไม่ตอบ สตาร์ทมอเตอร์ไซค์ขี่จากไปเลย แถมทำน้ำกระเซ็นสาดใส่เธอเต็มตัวเลยด้วย เนี่ยเฟยเฟยก็ อะไรของมันวะ -“-

 

หลังจากนั้นหร่วนอี้เฉินก็ไม่มา sit in ไม่มากินข้าวกับเนี่ยเฟยเฟยอีกเลย แถมเริ่มมีข่าวลือว่าดาวคณะออกแบบไปจีบเขาขอเป็นแฟน และเขาตอบตกลง ตอนนี้จึงคบเป็นแฟนกับดาวคณะออกแบบอยู่

พอข่าวลือแพร่กระจายไปทั่วมหาวิทยาลัย เนี่ยเฟยเฟยรู้เรื่องนี้เพราะประธานชมรมถ่ายภาพใต้ทะเลบอก เธอก็พยายามโทรหาหร่วนอี้เฉินเพื่อถามเรื่องนี้ เขาก็ไม่รับสายบ้าง กดทิ้งบ้าง ไม่แน่ใจว่าเปลี่ยนเบอร์เลยด้วยไหม

เนี่ยเฟยเฟยคิดแค่ว่า เธอกับหร่วนอี้เฉินคบกันเพราะดูตัว ตามกฎของการดูตัว ถ้าลองคบกันแล้วรู้สึกไม่โอเค ก็แค่บอกอีกฝ่ายตามตรงแล้วเลิกคบกันโดยสันติ เหลือเป็นแค่เพื่อนธรรมดา นี่อะไรอยู่ดีๆ ก็แหกกฎไปมีแฟนใหม่โดยไม่บอกไม่กล่าว ผิดกฎการคบกันเพราะดูตัวอย่างแรง ไม่ไว้หน้าเธอเลยด้วย

ดาวคณะออกแบบเป็นดาวคณะก็จริง แต่ความจริงไม่ได้สวยอะไรมากมาย เนี่ยเฟยเฟยสวยกว่าเยอะ

เนี่ยเฟยเฟยตัดสินใจไปดักรอพบหร่วนอี้เฉินที่คณะออกแบบ แต่โดนสาวๆ คณะออกแบบขวางไว้ไม่ให้เข้าไปรอพบข้างในตึกคณะ แล้วดาวคณะที่เป็นแฟนคนปัจจุบันก็โผล่มาท้าเธอจับสลากเลือกหัวข้อแข่งขันกัน ใครชนะจะได้คบกับหร่วนอี้เฉิน

เนี่ยเฟยเฟยรับคำท้า แล้วจับสลากได้ตีเทนนิส ทั้งที่เธอตีเทนนิสไม่ค่อยเป็น แล้วฝ่ายนั้นตีเก่ง (เป็นแผนของฝ่ายนั้นมาแต่แรก)

ดาวคณะออกแบบจงใจตีลูกเทนนิสใส่ตัวเนี่ยเฟยเฟยเต็มแรง ลูกแรกตีใส่ขา ลูกที่สองตีใส่ท้อง ลูกที่สามตีใส่หน้า ทั้งสามลูกแรงมาก ยิ่งลูกสุดท้ายนี่ เนี่ยเฟยเฟยหน้าบวมเลย พวกสาวๆ คณะออกแบบที่มุงดูอยู่ส่วนใหญ่หัวเราะเยาะขำเธอ บางคนก็สงสาร

ตอนที่เนี่ยเฟยเฟยเล่าเรื่องนี้ให้คังซู่หลัวฟัง คังซู่หลัวทำเสียงสงสารเพื่อน พร้อมกับว่าเธอคงรู้สึกแย่มากสินะ แล้วเธอทำยังไง?

เนี่ยเฟยเฟยบอก ฉันก็วางแร็คเก็ตลง เดินข้ามไปหายายนั่น แล้วอัดเธอจนร้องไห้น่ะสิ

คังซู่หลัวพูดไม่ออก บอกว่าฉันนึกว่าเธอจะเล่นบทนางเอกในนิยายที่ถูกรังแก ร้องไห้อย่างน่าสงสารซะอีก

เนี่ยเฟยเฟยบอกล้อเล่นแล้ว สาว cool อย่างฉันไม่มีทางทำแบบนั้นหรอกย่ะ การถูกสงสารเป็นข้อห้ามร้ายแรงของพวกหนุ่ม cool สาว cool แบบฉันเลยนะยะ ขืนโดนสงสาร ชีวิตนี้ก็จบสิ้นแล้ว

คังซู่หลัวถามว่า แล้วถ้าเกิดท่านเทพเนี่ย (เนี่ยอี้) ไอดอลของเธอชอบผู้หญิงอ่อนหวานเจ้าน้ำตา โดนรังแกแล้วได้แต่ร้องไห้กระซิกน่าสงสาร เสียใจทีกระอักเลือดล่ะ เธอจะยอมทิ้งตัวตนของตัวเองเปลี่ยนไปมีบุคลิกแบบนั้นไหม?

เนี่ยเฟยเฟยตอบว่า แน่นอน ถ้าท่านเทพของฉันชอบแบบนั้น ฉันจะทิ้งบุคลิกเดิมของตัวเอง ปรับเปลี่ยนตัวไปเป็นอย่างที่เขาชอบเขาต้องการทันที

คังซู่หลัว “ไม่จริงน่า...”

เนี่ยเฟยเฟยเรียนคาราเต้มา ได้ 2 ดั้ง เธอเป็นคนมีอารมณ์ขัน ง่ายๆ สบายๆ เป็นกันเอง พูดตลกได้เรื่อยกับคนที่สนิท และชอบพูดชมตัวเองแบบทีเล่นทีจริง

แม่ของเนี่ยเฟยเฟยเข้าใจผิดมาตลอดว่าเนี่ยเฟยเฟยรักหร่วนอี้เฉิน และหร่วนอี้เฉินเป็นรักแรกของลูกสาว แถมยังบอกกับคังซู่หลัวอย่างนี้ เนี่ยเฟยเฟยแก้ความเข้าใจผิดว่า เธอไม่ได้รักหร่วนอี้เฉิน แค่ลองคบกันดูเฉยๆ + โมโหกับการหักหน้าเธอไปคบคนอื่นโดยไม่มีการบอกกล่าวเท่านั้น

 

สรุปว่าวันนั้น เนี่ยเฟยเฟยไม่ได้พบหร่วนอี้เฉิน และมีข่าวแพร่ไปทั่วว่าดาวคณะออกแบบโดนเนี่ยเฟยเฟยอัดจนเข้าโรงพยาบาล ทุกคนจึงลือกันให้แซ่ดว่าเนี่ยเฟยเฟยหึงหวงหร่วนอี้เฉิน จึงตามไปอัดสั่งสอนดาวคณะออกแบบจนเธอถึงกับต้องแอดมิท

เนี่ยเฟยเฟยฟังข่าวลือแล้วได้แต่ปลงว่าคนเราช่างบิดเบือนกันเก่งดี และตัวเธอเองรู้ดีว่าตัวเองลงมือเบามาก ไม่มีทางที่ฝ่ายนั้นจะถึงกับต้องแอดมิทแน่นอน นี่ยายดาวคณะออกแบบคงทำเป็นสำออยแน่ๆ แต่ตัวเนี่ยเฟยเฟยเองต้องเข้าโรงพยาบาลจริงๆ เพราะโดนลูกเทนนิสสามลูกนั้นอัดใส่ หนักหนาเอาการ แต่เรื่องที่เนี่ยเฟยเฟยเข้าโรงพยาบาล กลับไม่มีใครพูดถึงเลย

ประธานชมรมถ่ายภาพฯ ถามเนี่ยเฟยเฟยว่า จะแก้ข่าวไหม? เนี่ยเฟยเฟยบอก ฉันได้อัดยายดาวคณะนั่นแล้ว ฉันสะใจแล้ว และฉันไม่ได้จะไปลงสมัครเป็นประธานนักศึกษา ไม่จำเป็นต้องให้ใครมาเข้าใจฉัน แล้วปล่อยข่าวลือไปตามสบาย

หลังเนี่ยเฟยเฟยออกจากโรงพยาบาล เรื่องหมั้นกับหร่วนอี้เฉินถูกยกเลิก พ่อแม่ฝ่ายชายมาขอโทษขอโพยยกใหญ่ เพราะลูกชายไปคบสาวอื่นเป็นแฟนซะแล้ว เนี่ยเฟยเฟยโมโหเดือดจนทำท่าจะไปปาหน้าต่างบ้านหร่วนอี้เฉินแตกทั้งกลางดึกระบายโทสะ แต่ถูกพ่อแม่ห้ามไว้ เธอไม่พอใจว่าถ้าจะเลิกกันก็มาบอกกันดีๆ ใครจะไปว่าอะไร หมอนี่ประสาทกลับหรือเปล่า ถึงมาขอบอกเลิกดีๆ ไม่ได้ ทำแบบนี้น่าเกลียดมาก ไม่ให้เกียรติกันเลย

ช่วงนั้น ในมหาวิทยาลัยลือกันกระฉ่อนว่าเนี่ยเฟยเฟยถูกหร่วนอี้เฉินทิ้ง แม่เนี่ยเฟยเฟยสงสารลูกสาว จึงบอกว่าช่างภาพอัจฉริยะชื่อดังระดับโลกที่เนี่ยเฟยเฟยนับถือมาก (Jacob Evans) มาเปิดวิชาสอนที่มหาวิทยาลัย Y ประเทศอเมริกาพอดี ถามลูกสาวว่าอยากโอนหน่วยกิตไปเรียนที่นั่นไหม? เนี่ยเฟยเฟยบอก ทำไมแม่ไม่รีบบอกหนูคะ ไปค่ะไป

แม่เนี่ยเฟยเฟยบอกว่า หนูคงรู้นะว่าไปเรียนต่ออเมริกา โดยเฉพาะมหาวิทยาลัยนั้น คะแนนสูงมาก เรียนยากมาก และต้องสอบโทเฟลให้ผ่านก่อนถึงจะได้

นับจากวันนั้นมา 20 วัน เนี่ยเฟยเฟยท่องศัพท์อังกฤษไปทั้งหมด 25,000 คำ ทำเอาลืมหน้าหร่วนอี้เฉินไปเลย อาการหนักถึงขั้นเห็นคำศัพท์ภาษาอังกฤษเป็นต้องวิ่งเข้าไปอ้วกในห้องน้ำ

หลังจากนั้นเนี่ยเฟยเฟยก็สอบผ่านโทเฟล โอนหน่วยกิตไปเรียนต่อที่มหาวิทยาลัย Y ได้เป็นลูกศิษย์ของ Jacob Evans ที่เธอนับถือมากสมใจ พอเรียนจบแล้วก็ได้ทำงานเป็นช่างภาพของนิตยสาร “เซินหลาน-เว่ยหลาน” คอลัมน์ภาพถ่ายจากทะเล

ระหว่างเรียน ผลงานภาพถ่ายของเนี่ยเฟยเฟยได้รับรางวัลเพียบ ได้จัดนิทรรศการก็หลายครั้ง จัดเป็นคนมีพรสวรรค์มากในสายงานของตัวเอง

ตั้งแต่เกิดเหตุต้องย้ายมหาวิทยาลัย เนี่ยเฟยเฟยกับหร่วนอี้เฉินก็ไม่ได้เจอกันอีก ไม่ได้ติดต่อกันอีกเลย จนเวลาผ่านไปหกปี ถึงค่อยมาเจอกันอีกหนบนทางด่วน ตอนที่เนี่ยเฟยเฟยรถเสียโบกรถ และหร่วนอี้เฉินจอดรถลงมาดู

 

กลับมาบนทางด่วนในปัจจุบัน หร่วนอี้เฉินตกลงรับเนี่ยเฟยเฟยขึ้นรถไปด้วยกัน บอกจะพาไปค้างคืนในเมืองข้างหน้าหนึ่งคืน ส่วนรถก็ให้ทางศูนย์มาลากไปที่ศูนย์ในตัวเมืองข้างหน้า แล้วพรุ่งนี้เขาจะขับรถพาไปส่งที่ศูนย์ที่รถซ่อมอยู่

เนี่ยเฟยเฟยบอกว่าแค่พาไปส่งที่โรงแรมในเมืองก็พอ เธอรีบ พรุ่งนี้เธอจะหาเช่ารถไปต่อเอง พร้อมกับคิดว่าเมื่อก่อนหมอนี่ไม่ได้ใจดีแบบนี้นี่นา

หร่วนอี้เฉินถามเธอว่าจะไปไหน เนี่ยเฟยเฟยก็เผลอตอบไปว่าจะไปเกาะนาโกย่า เขาถามว่าไปทำอะไร ตอนนี้ที่นั่นหนาวมาก เธอบอกไปเที่ยว ไม่ยอมบอกมากกว่านี้

หร่วนอี้เฉินมองหน้าเธอย่างชั่งใจ แล้วบอกว่า พอดีเขากำลังจะไปที่นั่นเหมือนกัน บริษัทเขามีสาขาอยู่ที่นั่น ต้องไปประชุมที่นั่นบ่อย เขาขับพาไปเลยแล้วกัน

เนี่ยเฟยเฟยกำลังวางแผนอยู่ว่าหลังจากเข้าไปในเมือง พรุ่งนี้จะเช่ารถพร้อมคนขับพาไปนาโกย่า เพราะเธอขับรถเองเห็นทีจะไปไม่ถึงที่หมาย เมื่อหร่วนอี้เฉินเสนอมาแบบนี้ เธอจึงตกลง จากนั้นไปเอาของบางส่วนที่ท้ายรถเธอมาใส่รถหร่วนอี้เฉิน ขับรถไปเกาะนาโกย่าด้วยกัน

ไปถึงในเมือง ค้าง 1 คืน เช้ามา เนี่ยเฟยเฟยรู้นิสัยหร่วนอี้เฉินว่าตื่นเช้ามาต้องดื่มกาแฟก่อน จึงไปที่ร้านกาแฟ ก็เจอเขานั่งดื่มกาแฟอ่านหนังสือพิมพ์อยู่พอดี

หร่วนอี้เฉินบอก ขอเวลาสิบนาที เนี่ยเฟยเฟยพยักหน้า แล้วนั่งรอ ระหว่างรอ โต๊ะถัดไปมีสองสาววัยรุ่นนั่งคุยกันถึงเนี่ยอี้ ว่าตระกูลเนี่ยเป็นเจ้าของบริษัทยายักษ์ใหญ่ เนี่ยอี้ ทายาทคนปัจจุบันเป็นอัจฉริยะ หล่อมาก บุคลิกดีมาก เท่มากด้วย ระดับพระเอกหนังยังชิดซ้าย (เนี่ยอี้หล่อกว่าหร่วนอี้เฉิน ข้อนี้มติมหาชนในเรื่องนี้คอนเฟิร์ม และในสายตาของเนี่ยฟยเฟย เนี่ยอี้เป็นผู้ชายหล่อที่สุดเท่าที่ชีเคยเห็นมา)

จากนั้นก็ร่ายประวัติเนี่ยอี้ว่า อายุ 14 ปีเข้าเรียนมหาวิทยาลัย 16 ปีเข้าเรียนป.เอกด้านชีววิทยา อายุ 19 ปีจบโพสต์ด็อกเตอร์ที่มหาวิยาลัย Y ของอเมริกา แล้วอยู่สอนในมหาวิทยาลัย 1 ปี ก็กลับประเทศมาสืบทอดกิจการบริษัทยาของพ่อ แล้วยังอยู่องค์กรอะไรสักอย่างของรัฐบาล เกี่ยวกับความมั่นคง เป็น top10 บุคคลไอคิวสูงที่สุดในโลกของศตวรรษที่ 21 แถมยังไม่มีข่าวเรื่องผู้หญิงเลย มีแฟนเป็นทางการคนเดียว คือภรรยาคนปัจจุบัน แต่ได้ยินว่าแต่งงานกันเพราะดูตัว คงไม่ได้รักกัน

เกี่ยวกับภรรยาของเนี่ยอี้ ได้ยินว่าเป็นรุ่นน้องมหาวิทยาลัย Y ของเขา เป็นลูกสาวของนักธุรกิจที่เป็นเพื่อนของพ่อเขา แต่ไม่ได้เรียนเก่ง แค่จบแบบขอไปที ฟังว่าเดิมทีตัวเลือกหลักเจ้าสาวของเนี่ยอี้มีอยู่สองคน คือภรรยาคนปัจจุบัน กับอีกคนเป็นลูกสาวเพื่อนสนิทของแม่เนี่ยอี้ที่กำพร้าแต่ยังเล็ก แม่เนี่ยอี้จึงรับมาอุปการะตั้งแต่ตอนนั้น ชื่อเจี่ยนซี

สองสาวคุยกันว่ายายลูกสาวนักธุรกิจคงได้แต่งงานกับเนี่ยอี้เพราะเป็นลูกสาวนักธุรกิจ มีภาษีดีกว่าเจี่ยนซีตรงพื้นเพฐานะ ได้แต่งกับเนี่ยอี้ช่างโชคดีเหลือเกิน บลาๆๆ แต่เนี่ยอี้ช่างโชคร้าย รวยไปก็เท่านั้น สุดท้ายก็โดนพ่อแม่จับคลุมถุงชน

หร่วนอี้เฉินก็ฟังที่สองสาวโต๊ะข้างๆ คุยกัน เลยเปรยขึ้นมาว่า ตอนนั้นเธอกับฉันเองก็พ่อแม่จับคลุมถุงชนเหมือนกัน

เนี่ยเฟยเฟยบอก นายอย่าอคติกับการคลุมถุงชนมาก อีกอย่าง ความจริงระหว่างนายกับฉันไม่เรียกว่าคลุมถุงชนสักหน่อย

หร่วนอี้เฉินพูดว่า “ความจริงบางครั้งการตัดสินใจของพ่อแม่ก็ใช่ว่าจะไม่ดี”

เนี่ยเฟยเฟย “ตอนนี้นายรู้ความอย่างนี้ ทางบ้านนายรู้เรื่องหรือเปล่านี่?”

หร่วนอี้เฉิน “แล้วเธอล่ะ จะไปเกาะนาโกย่าคนเดียว ทางบ้านรู้เรื่องหรือเปล่า? ”

เนี่ยเฟยเฟย “นายคงไม่ได้โทรบอกพ่อแม่ฉันนะ? ”

หร่วนอี้เฉิน “ฉันไม่รู้วิธีติดต่อบ้านเธอ แล้วทำไมถึงบอกพ่อแม่เธอเรื่องนี้ไม่ได้? ”

เนี่ยเฟยเฟย “เพราะว่าพวกท่านจะไปบอก... ” เนี่ยเฟยเฟยรีบหยุดพูดก่อนหลุดปาก

หร่วนอี้เฉิน “พวกท่านจะไปบอกใคร? แฟนเธอหรือ? ”

เนี่ยเฟยเฟย “บอกตามตรง ฉันทะเลาะกับแฟน กำลังอยู่ระหว่างหนีออกจากบ้าน พ่อแม่ฉันไม่รู้เรื่องนี้ นายช่วยฉันหน่อย อย่าติดต่อบอกพวกท่าน”

หร่วนอี้เฉิน “เธอหายตัวไป แล้วแฟนเธอไม่บอกพ่อแม่เธอรึไง? ”

เนี่ยเฟยเฟย “ไม่บอกหรอก ถ้าไม่ถึงที่สุด เขาไม่มีทางบอกให้พ่อแม่ฉันกังวล”  เนี่ยเฟยเฟยพูดอย่างมั่นใจ

หร่วนอี้เฉิน “เนี่ยเฟยเฟย จะเห็นแก่ตัวก็ให้มันมีลิมิตเหน่อย เธอก็รู้เหมือนกันนี่ว่าผู้ใหญ่จะเป็นห่วง?”

เนี่ยเฟยเฟย “มีบางเรื่องนายไม่เข้าใจหรอก”

หร่วนอี้เฉิน “งั้นเธอก็อธิบายให้ฉันเข้าใจสิ”

เนี่ยเฟยเฟย “เรื่องนี้บอกไปนายก็ไม่เข้าใจ”

หร่วนอี้เฉิน “เนี่ยเฟยเฟย เธอนี่เป็นอย่างนี้ทุกที พอเกิดปัญหาก็รู้จักแต่หนีก่อน หกปีแล้ว ไม่ได้พัฒนาขึ้นเลย”

เนี่ยเฟยเฟยมองหน้า “หร่วนอี้เฉิน ดูท่าทางจะถึงเวลาที่เราต้องแยกทางกันแล้วมั้ง”

หร่วนอี้เฉินขมวดคิ้วมองหน้าเธอ เธอมองตอบตรงๆ แบบเฉยสนิท เขาเลยถามว่า เธอกับแฟนทะเลาะกัน เธอเลยหนีไปที่นาโกย่ากะให้แฟนตามไปง้อ แล้วเธอจะยกโทษให้งั้นหรือ? เธออยากได้การง้อแบบโรแมนติก ถึงได้หนีออกจากบ้านงั้นหรือ?

เนี่ยเฟยเฟยรู้ว่าหมอนี่เข้าใจผิด แต่ก็ตอบตัดปัญหาไปว่า “ใช่”

หร่วนอี้เฉิน “เขาจะเดาได้ไหมว่าเธอจะไปที่นาโกย่า?”

เนี่ยเฟยเฟยโกหกไปว่า “เดาได้” แต่ความจริง เนี่ยเฟยเฟยรู้ว่าเนี่ยอี้ไม่มีทางเดาได้ หรือถึงเดาได้ ก็หมดเวลาเสียก่อน

หร่วนอี้เฉินมองหน้าเธออย่างชั่งใจ แล้วตัดสินใจพูดว่า “ฉันจะไปส่งเธอเอง แบบนี้ปลอดภัยกว่า ฉันจะไม่บอกใคร”

หลังจากขึ้นรถแล้ว เขาเปรยลอยๆ ว่า “ความจริงตอนนั้นเธอเองก็อยากให้ฉันไปหาเธอที่อเมริกาหรือ?”

เนี่ยเฟยเฟยกำลังรัดเข็มขัด ได้ยินไม่ถนัด หันมาถามว่า “นายว่าอะไรนะ?”

แต่หร่วนอี้เฉินไม่ได้พูดอะไรอีก

 

เนื่องจากในร้านกาแฟ ได้ยินสองสาวพูดถึงเนี่ยอี้ หลังจากขึ้นรถแล้ว เนี่ยเฟยเฟยจึงนึกย้อนไปถึงตอนที่เธอดูตัวกับเนี่ยอี้

วันหนึ่ง หลังจากเธอจบงานถ่ายภาพในต่างประเทศ นั่งเครื่องบินกลับมาถึงสนามบินเมืองตัวเอง แม่เธอมารับที่สนามบิน เอาชุดราตรีมาให้ด้วย บอกว่าให้แต่งหน้านิดหน่อยแล้วตรงไปงานปาร์ตี้เลย เพื่อนพ่อเธอที่เป็นเจ้าของบริษัทยายักษ์ใหญ่จัดปาร์ตี้ดูตัวให้ลูกชาย

เนื่องจากแม่ของเพื่อนพ่ออาการหนัก อยากเห็นหลานชายคนเดียวเป็นฝั่งเป็นฝาก่อนตาย เพื่อนพ่อเธอเลยรีบจัดงานเลี้ยงดูตัวเฟ้นหาลูกสะใภ้ให้ลูกชาย แต่แม่เธอไม่ค่อยชอบนิสัยลูกชายพ่อคนนี้ เลยไม่อยากให้เขามาถูกใจเธอ จึงจงใจเลือกชุดราตรีห่วยๆ ให้ลูกสาวใส่ และสั่งลูกว่าไม่ต้องแต่งหน้าสวยเด่นมาก เอาแค่พอไปวัดไปวาไหวก็พอ และห้ามไม่แต่งหน้าเลยด้วย เดี๋ยวคนอื่นแต่งหน้า เราไม่แต่งหน้าอยู่คนเดียว จากไม่เด่น จะกลายเป็นเด่นมากแทน อันตราย

เนี่ยเฟยเฟยถามว่า ในเมื่อไม่อยากให้ถูกเลือก งั้นปฏิเสธไปก็ได้นี่ว่าเธอยังไม่กลับจากทำงาน

แม่เธอบอกว่าพ่อเธอน่ะสิ ดันไปบอกเขาเรียบร้อยเลยว่าตอนนี้ลูกสาวทำงานอยู่ที่นั่น จะนั่งเครื่องกลับมาถึงวันนี้ เวลานี้ เพื่อนพ่อเลยบอกพอดีเลย มาร่วมปาร์ตี้ได้

เนี่ยเฟยเฟย “แล้วนี่พ่อไปไหนหรือคะ?”

แม่พูดเสียงเรียบเฉย “กำลังคุกเข่าบนคีย์บอร์ดอยู่” (โดนแม่ลงโทษ)

 

เนี่ยเฟยเฟยไปในงาน ไม่ได้เจอฝ่ายชายที่เป็นพระเอกของงาน ได้แค่ทักทายผู้ใหญ่ของฝ่ายชายที่จัดงาน แม่เธอกะว่าอยู่ในงานสัก 30 นาทีตามมารยาทแล้วรีบขอตัวเผ่นกลับ โดยอ้างว่าคุณพ่อป่วยอยู่ ทิ้งไว้บ้านคนเดียวแล้วเป็นห่วง ต้องรีบกลับไปอยู่เป็นเพื่อน

ระหว่างที่แม่ไปคุยกับผู้ใหญ่วัยเดียวกัน เนี่ยเฟยเฟยหันไปเห็นอะไรสีฟ้าแวบๆ ในสวนของคฤหาสน์ จึงแวบออกไปดู เจอตู้ปลากลางแจ้งแบบปรับอุณหภูมิขนาดใหญ่ ข้างในมีปลาเขตร้อนสารพัด

เนี่ยเฟยเฟยเดินไล่ชื่อปลาไปเรื่อยๆ แล้วมีเสียงถามดังมาจากอีกฝั่งของตู้ปลาว่า คุณรู้จักชื่อปลาพวกนี้หมดเลยหรือ?

เธอมองเห็นหน้าเขาไม่ชัดเพราะสาหร่ายในตู้ปลาบัง แต่เสียงฝ่ายนั้นทุ้มต่ำ เบาแต่ชัดเจน และเสียงหล่อมาก

เธอถามเขาว่าเป็นแขกในงานเหมือนกันหรือ? แต่เขาไม่ตอบ กลับชี้ปลาในตู้ แล้วถามว่าตัวนี้ชื่อปลาอะไร เนี่ยเฟยเฟยตอบให้ เขาก็ชี้อีก เธอก็ตอบอีก

ถามตอบได้ครู่หนึ่ง เธอก็ถอนใจบอกว่า “ที่นี่ดีจัง สนุกกว่าข้างในเยอะ คุณคงออกมาเพราะเบื่อข้างในเหมือนกันละสิ?”

ชายแปลกหน้าพูดว่า “ข้างในน่าเบื่อมากจริงๆ นั่นแหละ”

เนี่ยเฟยเฟย “ลูกชายบ้านนี้นี่น่าสงสารจริงๆ”

ผู้ชายในเงามืด “น่าสงสาร?”

เนี่ยเฟยเฟย “นี่ไม่ใช่งานเลี้ยงดูตัวหรือ?”

ผู้ชายในเงามืด “ดูตัวไม่ดีหรือ?”

เนี่ยเฟยเฟย “ดูตัวน่ะไม่ได้ไม่ดี แต่การที่จัดงานดูตัวแบบด่วนเพราะต้องรีบแต่งงานน่ะไม่ดี เพราะงั้นฉันถึงได้มองว่าลูกชายบ้านนี้น่าสงสาร”

ผู้ชายในเงามืด “คุณเองก็มาดูตัวเหมือนกัน มีโอกาสถูกเลือกเหมือนกัน ถ้าถูกเลือก คุณไม่น่าสงสารเหมือนกันหรอกหรือ?”

เนี่ยเฟยเฟยพูดเล่นว่า “ไม่เหมือนกันค่ะ ฉันทำอาชีพถ่ายรูปใต้น้ำ ใช้เงินเยอะมาก ถ้าลูกชายบ้านนี้ถูกใจฉันจริงๆ ฉันก็มีเงินซื้อเครื่องช่วยดำน้ำไปถ่ายภาพในน้ำลึกละ”

ผู้ชายในเงามืดเหมือนจะฟังไม่ออกว่าเธอแค่พูดเล่น เขาพูดว่า “ดังนั้น คุณจึงแต่งงานเพื่อเงิน?”

เนี่ยเฟยเฟยนิ่งคิด แล้วตอบว่า “คุณเคยอ่านนิยายเรื่องหนึ่งไหม? ในนั้นนางเอกพูดว่าเธออยากได้ความรักมากที่สุด ความรักเยอะมากๆ ถ้าไม่มีความรัก เงินก็ดีอยู่เหมือนกัน ถ้าไม่มีเงิน อย่างน้อยเธอก็ยังมีสุขภาพแข็งแรง”

ผู้ชายในเงามืดเอ่ยชื่อนิยายเรื่องที่เนี่ยเฟยเฟยพูดออกมา

เนี่ยเฟยเฟย “ใช่แล้ว ฉันก็ต้องอยากได้ความรักแน่ละ ถ้าไม่มีความรัก งั้นก็เอาเงินมาให้ฉัน ถ้าไม่มีเงิน มีสุขภาพดีฉันก็จะรู้สึกมีความสุขเหมือนกัน”

ผู้ชายในเงามืดไม่ได้พูดอะไรอีก พอดีกับแม่ของเนี่ยเฟยเฟยโทรศัพท์มาตามลูกสาวกลับบ้าน เธอจึงบอกลาชายแปลกหน้าว่า ไว้ค่อยคุยกันใหม่ แล้วขอตัวจากไป จากนั้นก็นึกขึ้นได้ว่า ไม่รู้ชื่อกับหน้าฝ้ายนั้นด้วยซ้ำ เจอหน้ากันจะรู้ได้ยังไงว่าเป็นเขา คงไม่ได้เจอกันอีกแล้วมากกว่า

 

วันรุ่งขึ้น แม่เนี่ยเฟยเฟยมาบอกว่า ลูกชายเพื่อนพ่อที่เป็นพระเอกปาร์ตี้ดูตัวเมื่อคืนนี้ขอนัดเนี่ยเฟยเฟยไปดื่มน้ำชาด้วยกันที่ร้านน้ำชาเซียงจวีถ่าที่ไฮโซที่สุดของเมือง

เนี่ยเฟยเฟยงง ถามว่าเขานัดผู้หญิงทุกคนที่ไปดูตัวไปดื่มน้ำชาด้วยกันหมดเลยหรือเปล่า?

แม่เนี่ยเฟยเฟยบอกว่า ทีแรกแม่ก็คิดเหมือนลูกนั่นแหละ เลยลองถามพ่อดู พ่อบอกว่า เขานัดลูกคนเดียว แม่เนี่ยเฟยเฟยสั่งลูกสาวว่า ไปพบเขาก็คุยกับเขาดีๆ แล้วปฏิเสธเขาไปนะ เนี่ยเฟยเฟยก็โอเค

จนตอนนี้เธอก็ยังไม่รู้ชื่อของฝ่ายชายที่เป็นพระเอกของงานเลี้ยงดูตัวเลย

พอเนี่ยเฟยเฟยไปตามนัด เข้าไปในห้องพิเศษ เจอเนี่ยอี้นั่งรออยู่ข้างใน เธอก็เข้าใจคำเปรียบเปรยเกี่ยวกับความรักที่แม่เธอพูดให้ฟังทันที

ดอกไม้ในเรือนกระจกในใจของเธอผลิบานทันทีที่ได้เห็นหน้าเนี่ยอี้ตัวเป็นๆ และได้รู้ว่าเขาคือคู่ดูตัวของเธอ

แต่เนี่ยเฟยเฟยนึกว่าเข้าผิดห้อง จึงพึมพำถามว่าเธอมาผิดห้องหรือเปล่า?

เนี่ยอี้ตอบว่า “คุณไม่ได้มาผิดห้องครับ ผมชื่อเนี่ยอี้ คุณหนูเนี่ย เมื่อคืนนี้เราเจอกันแล้ว”

เนี่ยเฟยเฟยแปลกใจ บอกว่า แต่เมื่อคืนนี้คุณแม่คุณบอกว่าคุณรู้สึกไม่ค่อยสบาย จึงขึ้นไปนอนพัก ฉันไม่ได้รอจนคุณกลับลงมานะ

เนี่ยอี้จึงทวนคำพูดของเนี่ยเฟยเฟยที่ว่า ถ้าไม่ได้ความรัก ขอเงินก็ยังดีออกมา ตบท้ายว่า คุณบอกว่านี่คือทัศนคติเกี่ยวกับการแต่งงานของคุณ

เนี่ยเฟยเฟยตกตะลึง โพล่งว่าคนที่อยู่อีกฝั่งของตู้ปลาคือคุณหรอกหรือ?

เนี่ยอี้ชงชาไปพลางถามเธอไปพลางว่า คุณมีเงื่อนไขเกี่ยวกับคุณสมบัติของสามีในอนาคตยังไง?

เนี่ยเฟยเฟยค่อยนึกได้ว่านี่คือกำลังดูตัวกันอยู่ เธอดูตัวมาตั้งแต่อายุ 18 ปี เจอคู่ดูตัวมาเยอะแยะมากมาย แต่รายนี้เป็นรายแรกที่ถามออกมาตรงๆ โต้งๆ แบบนี้ บวกกับยังไงก็คิดว่าเธอคงไม่มีหวังได้ลงเอยกับเขาหรอก เลยตอบไปตามตรงว่า “หน้าตาดี ฉลาด รวย รักฉัน นิสัยดี ซื่อสัตย์”

เนี่ยอี้พูดว่า “นอกจากข้อที่ต้องรักคุณ นอกนั้นผมมีครบหมด” จากนั้นถามว่า “คุณหนูเนี่ย คุณสนใจจะมาเป็นสะใภ้ของตระกูลเนี่ยไหมครับ?”

เนี่ยเฟยเฟยนิ่งอึ้งไปครู่ใหญ่ แล้วตัดสินใจถามว่า “คุณมีปัญหาอะไรที่บอกไม่ได้หรือเปล่า? เช่นว่าชอบเพศเดียวกัน? หรือคุณมีผู้หญิงที่รักมากอยู่แล้ว แต่อยู่ด้วยกันไม่ได้ด้วยเหตุผลอะไรสักอย่าง แล้วครอบครัวคุณก็บีบให้คุณแต่งงาน คุณจึงมาเอาฉันเป็นตัวแทน?”

เนี่ยอี้ตอบว่า “ผมมองว่าความรักเป็นแค่ผลของโดพามีน นอร์อิพิเนฟริน เอนดอร์ฟิน ฟีนิลเอทิลเอมีน และฮอร์โมนจากต่อมใต้สมอง ไม่ได้มีความหมายอะไร แต่การแต่งงานเป็นความสัมพันธ์ที่มีการทำสัญญากัน ต่างฝ่ายต่างมีหน้าที่ต้องรับผิดชอบกันและกัน ผมให้การแต่งงานที่มีความรักแก่คุณไม่ได้ แต่หน้าที่ความรับผิดชอบอย่างอื่น ผมให้คุณได้ทั้งหมด และการแต่งงานที่คุณคิดไว้ใช่ว่าต้องมีความรัก ผมให้เครื่องช่วยดำน้ำคุณ คุณก็มีความสุขแล้ว ผมเห็นว่าเราสองคนเหมาะสมกันมาก”

เนี่ยเฟยเฟย “ความจริงแล้วเดี๋ยวนี้การแต่งงานปลอมๆ...”

พูดยังไม่ทันจบ เนี่ยอี้ก็แทรกขึ้นมาก่อนว่า “ไม่ใช่การแต่งงานปลอม เราจะมีลูกด้วยกัน แต่จะใช้วิธีผสมเทียม เป็นเด็กหลอดแก้ว ผมรู้ดีว่าคุณต้องการเวลาใคร่ครวญเล็กน้อย”

แค่คิดว่าจะได้มีลูกกับเนี่ยอี้ ไอดอลของเธอ เนี่ยเฟยเฟยก็หน้าบานแล้ว และเริ่มเล่นละครเพื่อเอาใจเขาทันที ถามเขาว่าจะซื้อเครื่องช่วยดำน้ำให้เธอจริงๆ หรือ? พอเนี่ยอี้ยืนยันว่าใช่ เธอก็ตอบตกลงแต่งงานกับเขาทันที และบอกว่าเรากำลังจะแต่งงานกันแล้ว ฉันชื่อเนี่ยเฟยเฟย ต่อไปไม่ต้องเรียกฉันว่า “คุณหนูเนี่ย” แล้ว

เนี่ยอี้ถามว่า “คุณจะไม่ใช้เวลาคิดมากกว่านี้หน่อยหรือ?”

เนี่ยเฟยเฟยบอก “ไม่ต้องแล้วค่ะ ฉันแต่งงานกับคุณ คุณซื้อเครื่องช่วยดำน้ำให้ฉัน (ราคาเป็นร้อยล้านหยวน) ยุติธรรมดีแล้ว” แล้วให้เขารีบโทรไปแจ้งทางบ้านว่าเธอตอบตกลง

เนี่ยอี้พูดว่า แต่ดูเหมือนคุณแม่ของคุณจะไม่ค่อยชอบผมนัก เนี่ยเฟยเฟยเลยสอนเขาว่า ห้ามบอกแม่เธอว่าเธอแต่งงานกับเขาเพราะเงิน ให้บอกว่าเขารักแรกพบเธอ เท่านี้ก็หมดปัญหา เพราะแม่เธอเป็นกวี ชอบความโรแมนติก

เนี่ยเฟยเฟยมองว่าเนี่ยอี้ช่างโชคร้ายที่มาเลือกเธอแต่งงานด้วย เพราะความจริงเธอหลงรักเขาและเทิดทูนบูชาเขาเป็นไอดอลมานานแล้ว

ยังไงก็ตาม เพื่อไม่ให้เขารู้เรื่องนี้ เธอต้องแสดงละครปกปิดให้แนบเนียน อย่าให้เขารู้ว่าความจริงแล้วเธอรักเขา เพราะวันใดที่เขารู้ ความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเขาคงจะจบลง
แก้ไขเมื่อ 9 ต.ค. 2560, 20:01 โดย หลินโหม่ว

Admin เข้าร่วมเมื่อ 28 ก.ย. 2560, 14:24

0 ความคิดเห็น