โพสต์เมื่อ 19 ก.พ. 2561, 17:39
การฉลองตรุษจีนของคนจีนในปัจจุบัน
ในปัจจุบัน เทศกาลตรุษจีนถือเป็น 1 ใน 2 วันหยุดยาวของปี อันได้แก่ วันชาติจีน (1 ตุลาคม) และวันตรุษจีน (เมื่อช่วงก่อนปี 2005 รวมวันแรงงาน 1 พฤษภาคมด้วย แต่ภายหลังทางรัฐบาลจีนให้วันแรงงานหยุดเพียง 1 วันโดยไม่ให้หยุดยาวอย่างที่ผ่านมาอีก) คนจีนจะวางแผนใช้เวลาช่วงเทศกาลตรุษจีนที่เป็นวันหยุดยาวนี้กันล่วงหน้า และเนื่องจากเทศกาลตรุษจีนเป็นเทศกาลแห่งการอยู่พร้อมหน้ากันทั้งครอบครัว บรรดาชาวจีนที่ไปทำงานต่างจังหวัดจึงจะพากันเร่งหาซื้อตั๋วรถไฟ ตั๋วเครื่องบิน ฯลฯ เพื่อเตรียมตัวกลับบ้านกันแต่เนิ่นๆ หาไม่แล้วตั๋วจะหมด กลับบ้านไม่ได้
.
การฉลองตรุษจีนในยุคปัจจุบันจะเริ่มตั้งแต่วันตรุษจีนเล็กที่ชาวจีนเรียกว่า “เสี่ยวเหนียน” ซึ่งตรงกับวัน 23 ค่ำหรือ 24 ค่ำของเดือน 12 ตามจันทรคติของจีน ยาวไปจนถึงเทศกาลหยวนเซียว (เทศกาลโคมไฟ) ในวัน 15 ค่ำเดือนอ้าย ระหว่างช่วงเทศกาลจะมีพิธีต่างๆ ตามประเพณีที่ปฏิบัติสืบต่อกันมา ซึ่งอาจจะแตกต่างกันบ้างในแต่ละพื้นที่ แต่โดยทั่วไปประเพณีในวันสำคัญยังคงปฏิบัติเป็นแบบแผนเดียวกันดังนี้
.
✔ วันตรุษจีนเล็ก (小年 เสี่ยวเหนียน)
วัน 23 ค่ำหรือ 24 ค่ำเดือน 12 เรียกว่า “เสี่ยวเหนียน” เป็นวันเริ่มต้นเข้าสู่เทศกาลตรุษจีน ในวันนี้ชาวจีนจะทำพิธีเซ่นไหว้เทพเจ้าเตาไฟผู้มีหน้าที่คอยสอดส่องดูแลความประพฤติของคนในบ้าน แล้วนำรูปเทพเจ้าเตาไฟอันเก่ามาเผาเพื่อส่งเสด็จขึ้นสู่สวรรค์ไปกราบทูลรายงานแต่ความประพฤติดีๆ ของคนในครอบครัวต่อเง็กเซียนฮ่องเต้ และบันดาลความสงบสุขร่มเย็นให้แก่ครอบครัว
.
นอกจากนี้คนในครอบครัวจะช่วยกันทำความสะอาดบ้าน ตกแต่งบ้านด้วยภาพกระดาษตัดเป็นรูปภาพต่างๆ บนหน้าต่าง ติดคำกลอนคู่ที่มีความหมายเป็นมงคลข้างบานประตูทั้งสองฝั่ง ติดภาพมงคลบนฝาผนัง แขวนโคมไฟ รวมถึงทำเกี๊ยวรับประทานร่วมกัน ทำให้แต่ละบ้านเปี่ยมด้วยบรรยากาศอบอุ่นและเปี่ยมด้วยสีสันแห่งเทศกาลตรุษจีน
.
✔ วันส่งท้ายปีเก่า (除夕 ฉูซี)
หลังจากทำความสะอาดบ้านเรือนและซื้อหาข้าวของเตรียมพร้อมสำหรับเทศกาลตรุษจีนตลอดเจ็ดวัน ก็จะเข้าสู่ช่วงเฉลิมฉลองวันส่งท้ายปีเก่า ซึ่งตรงกับวัน 30 ค่ำเดือน 12 สมาชิกครอบครัวที่อยู่ต่างถิ่นจะพากันกลับบ้านไปฉลองปีใหม่ร่วมกับครอบครัวในวันนี้
.
ชาวจีนชอบเล่นประทัดและดอกไม้ไฟมาก บวกกับประเทศจีนเป็นประเทศที่ผลิตประทัดและดอกไม้ไฟส่งออก ทำให้สามารถหาซื้อประทัดและดอกไม้ไฟได้มากมายหลากหลายรูปแบบในราคาถูก ผลคือตั้งแต่วันสิ้นไปไปจนถึงวันตรุษจีน มีชาวจีนมากมายพากันจุดประทัดเล่นแบบแผลงๆ ตามท้องถนนตลอดทั้งกลางวันและกลางคืน เช่น ขี่จักรยานลากประทัดดอกใหญ่ๆ พวงยาวๆ ไปกับพื้นถนน พอลามใกล้ถึงมือก็ปล่อยทิ้งไป หรือเดินลากประทัดไปตามทางเท้า แล้วปล่อยทิ้งเมื่อลามใกล้ถึงมือ ซึ่งอันตรายและน่าหวาดกลัวมากสำหรับคนเดินถนนคนอื่นๆ ดอกไม้ไฟแบบแตกบนท้องฟ้าอย่างสวยงามก็จุดตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งที่กลางวันจุดไปก็มองแทบไม่เห็น การเล่นประทัดและดอกไม้ไฟแบบไม่บันยะบันยังของชาวจีน ทำให้มีอยู่ช่วงใหญ่ที่ทางรัฐบาลจีนประกาศห้ามจุดประทัดและดอกไม้ไฟภายในเขตเมืองปักกิ่ง
.
มาพูดถึงการฉลองตรุษจีนในด้านอื่นกันบ้าง ในช่วงเช้าของวันสิ้นปี จะมีการติดกลอนคู่ ติดภาพเทพทวารบาล หรือตัวอักษร “ความสุข (福 ฝู)” ที่ประตูบ้านเหมือนในสมัยโบราณ ส่วนในช่วงบ่ายจะเริ่มเตรียมอาหารมงคลต่างๆ เพื่อรับประทานในมื้อค่ำส่งท้ายปีที่เรียกว่า “เหนียนเยี่ยฟ่าน (年夜饭)” อันเป็นมื้อสำคัญที่ทุกคนในครอบครัวจะได้ร่วมรับประทานอาหารอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา
.
หลังรับประทานเหนียนเยี่ยฟ่านกันแล้ว จะมีการไหว้บรรพบุรุษและต้อนรับเทพเจ้าเตาไฟกลับจากสวรรค์ และตื่นรอช่วงเวลาเปลี่ยนจากปีเก่าเป็นปีใหม่ที่ชาวจีนเรียกว่า “โส่วซุ่ย (守岁 : เฝ้าปี)” พอถึงเวลาเที่ยงคืนก็จะจุดประทัดและทานเกี๊ยวต้อนรับปีใหม่กัน
.
✔ วันตรุษจีน หรือ วันชิวอิก (初一 : ชูอี)
เมื่อล่วงเข้าวัน 1 ค่ำเดือนอ้าย ชาวจีนจะจุดประทัดต้อนรับปีใหม่ แล้วจึงตั้งโต๊ะบูชาเทพเจ้าแห่งโชคลาภ (财神 ฉายเสิน) ระหว่างช่วงเที่ยงคืนถึงตีหนึ่ง แล้วเปิดประตูทิ้งไว้จนถึงเช้าเพื่อรับเสด็จเทพแห่งโชคลาภมาสถิตอยู่ในบ้าน (ในชนบทบางที่ยังสามารถทำได้ ในเมืองทำไม่ได้ เดี๋ยวโจรเข้าบ้าน)
.
รุ่งเช้าวันปีใหม่ (ตรุษจีน) ทุกคนต่างใส่เสื้อผ้าใหม่สีสันสดใส และนิยมทานอาหารเจเป็นมื้อแรกของปี เพราะมีความเชื่อว่าจะได้บุญเหมือนกับกินเจตลอดทั้งปี (เป็นเฉพาะบางบ้าน บางบ้านก็ไม่สนใจจะกินเจ เช่นครอบครัวของหลินโหม่วเป็นต้น) จากนั้นก็จะเริ่มเดินสายสวัสดีปีใหม่ผู้หลักผู้ใหญ่ที่เรียกว่า “ป้ายเหนียน (拜年 : อวยพรปีใหม่)” โดยเริ่มจากพ่อแม่ญาติพี่น้องฝ่ายสามี ส่วนภรรยาที่ออกเรือนมานั้นจะกลับไปเยี่ยมบ้านเกิดพร้อมสามีและลูกในวันถัดไป ซึ่งเรียกว่าการกลับบ้านแม่หรือ “หุยเหนียงเจีย (回娘家)” ผู้ใหญ่ที่ได้รับการป้ายเหนียนก็จะแจกขนมและเงินแต๊ะเอีย (ยาซุ่ยเฉียน) แก่หลานๆ
สำหรับผู้ที่ไม่สามารถกลับไปอยู่พร้อมหน้าครอบครัวได้ หรือไม่สะดวกไปตระเวนสวัสดีปีใหม่ญาติพี่น้องคนไหน ก็จะใช้วิธีโทรศัพท์ไปสวัสดีปีใหม่และอวยพรแทน
.
หลังจากเยี่ยมญาติแล้ว บางครอบครัวก็ไปทำบุญตามศาลเจ้าที่นับถือ บางครอบครัวก็ไปเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ ฉลองปีใหม่ ทำให้ในช่วงเทศกาลตรุษจีน ตามสถานที่ท่องเที่ยว รถไฟฟ้า รถไฟใต้ดิน มีผู้คนล้นหลามจนน่าสะพรึงกลัว หลินโหม่วเคยอยู่ฉลองตรุษจีนที่ปักกิ่งอยู่ปีหนึ่ง (ทำให้ได้เห็นการเล่นประทัดแบบแผลงๆ และการจุดดอกไม้ไฟพันธุ์แพงตลอด 24 ชั่วโมงแบบไม่เสียดายเงินของคนจีนในเมืองเทียนจิน) และได้ขึ้นรถไฟใต้ดินไปต่อรถไฟเพื่อนั่งไปเทียนจิน ได้พบประสบการณ์ฝูงชนชาวจีนจำนวนมหาศาลเต็มล้นสถานีรถไฟใต้ดินมาแล้วกับตา เมื่อเราเดินเข้าสู่เขตสถานีรถไฟใต้ดิน เราก็ไม่ต้องเดินอีกเลย แค่ไหลไปตามแรงดันของฝูงคนที่เบียดอยู่ข้างหลัง แล้วพยายามควบคุมทิศทางของตัวเองเอาไว้ก็พอ