หัวข้อ : “ห้าตี้” (五帝 : ห้าจักรพรรดิ)องค์ที่สองจวนซฺวี(颛顼)

โพสต์เมื่อ 5 มี.ค. 2561, 17:24

ตำนาน “ห้าตี้” (五帝 : ห้าจักรพรรดิ)องค์ที่สองจวนซฺวี(颛顼)




จักรพรรดิจวนซฺวี(颛顼)แซ่จี(姬)เป็นหลานของหวงตี้(黄帝 : จักรพรรดิเหลือง)บุตรของชางอี้(昌意)ซึ่งเป็นบุตรชายคนรองของหวงตี้ เนื่องจากนิสัยไม่ดี จึงถูกลดตำแหน่งส่งไปปกครองแม่น้ำรั่วสุ่ย(若水 : ปัจจุบันอยู่แถบมณฑลเสฉวน)เมื่อไปถึงที่นั่น เขาได้สมรสกับชางผู(昌仆)บุตรสาวของหัวหน้าเผ่าสู่ซานซื่อ(蜀山氏)อันเป็นเผ่าในท้องที่นั้น และให้กำเนิดจวนซฺวี
.
แม้จวนซฺวีจะถือกำเนิดที่ป่าริมแม่น้ำรั่วสุ่ย แต่จริงๆ แล้วใช้ชีวิตอยู่ที่ฉงซาง(穷桑 หรือ空桑)เนื่องจากช่วยส้าวเฮ่า(少昊 : บุตรชายคนโตของหวงตี้ และเป็นผู้สืบทอดตำแหน่งต่อจากหวงตี้)ปกครองแผ่นดินมีความชอบ จึงได้รับแต่งตั้งไปกินเมืองกาวหยาง(高阳 : ปัจจุบันคือตำบลกาวหยาง อำเภอฉี่ เมืองไคเฟิง มณฑลเหอหนาน)
.
หลังจากส้าวเฮ่าถึงแก่กรรม หัวหน้าเผ่าก้งกง(共工氏)กับจวนซฺวีได้ชิงบัลลังก์กัน จวนซฺวีรบชนะก้งกง ได้กุมอำนาจปกครองสืบต่อจากส้าวเฮ่า ได้รับนาม “กาวหยางซื่อ” (高阳氏 : ท่านกาวหยาง)
.
หลังจากจวนซฺวีได้สิบทอดตำแหน่งปกครองบ้านเมือง ได้ปฏิบัติตามแนวทางการปกครองของหวงตี้อย่างเคร่งครัด ทำให้บ้านเมืองร่มเย็นเป็นสุข กล่าวกันว่าจวนซฺวีอยู่ในตำแหน่ง 78 ปี ถึงแก่กรรมเมื่ออายุ 98 ปี
.
คุณูปการของจวนซฺวีอันเป็นที่เล่าขานสืบต่อกันมา ได้แก่
1. สร้างระบบปฏิทิน
2. สถาปนา “เก้าเขตแดน”(九州 : จิ่วโจว)นั่นคือในยุคของจวนซวี สามารถรวมแผ่นดินเข้าด้วยกันได้สำเร็จอย่างแท้จริง (ในยุคหวงตี้ ยังไม่สามารถรวมดินแดนของชือโหยวเข้ามาในปกครองโดยสิ้นเชิงได้ เพิ่่งมาทำได้ในยุคจวนซวี) และได้ทำการแบ่งดินแดนในปกครองออกเป็น 9 เขตแดน ซึ่งคำว่า “จิ่วโจว” นี้ ได้กลายเป็นที่มีความหมายแฝงว่า “แผ่นดินจีนทั้งหมด” และ “ประเทศจีนในยุคตำนานปรัมปรา” ในกาลต่อมา
“จิ่วโจว” หรือ “เก้าเขตแดน” นี้ ประกอบด้วย
.
1. เหยี่ยนโจว(兖州)
2. จี้โจว(冀州)
3. ชิงโจว(青州)
4. สฺวีโจว(徐州)
5. อวี้โจว(豫州)
6. จิงโจว(荆州)
7. หยางโจว(扬州)
8. ยงโจว(雍州)
9. เหลียงโจว(梁州)
.
3. ประพันธ์ทำนองเพลง《承云》เพื่อสักการะบูรพกษัตริย์
สำหรับเรื่องราวการแย่งอำนาจระหว่างจวนซฺวีกับก้งกง เป็นเรื่องราวที่เล่าขานสืบต่อกันมาในลักษณะตำนานการรบพุ่งของเทพอย่างมีสีสัน
“ก้งกง” (共工)คือหัวหน้าเผ่าก้งกง ผู้ได้รับการเรียกขานตามชื่อเผ่าว่า “ก้งกงซื่อ” (共工氏 : ท่านก้งกง) ตามตำนานกล่าวไว้ว่า ก้งกงมีเศียรเป็นมนุษย์สองเศียรและมีร่างกายเป็นอสรพิษ มีผมสีแดง พาหนะของก้งกงคือมังกรดำสองตัว
.
กล่าวกันว่าก้งกงแซ่เจียง (姜) เป็นลูกหลานของเหยียนตี้(炎帝)เขตพื้นที่ของเผ่าก้งกง ปัจจุบันอยู่ในแถบตอนเหนือของมณฑลเหอหนาน ติดกับพื้นที่ที่จวนซฺวีปกครอง
.
ก้งกงเป็นผู้ซึ่งให้ความสำคัญแก่การกสิกรรมอย่างมาก โดยเฉพาะงานทางด้านชลประทานยิ่งทำการศึกษาในเชิงลึกเป็นพิเศษ และเป็นผู้คิดค้นวิธีการสร้างเขื่อนเพื่อเก็บกักน้ำไว้ใช้ และในยุคนั้นอาชีพหลักของผู้คนคือกสิกรรม ดังนั้นประโยชน์ของการชลประทานจึงมีความสำคัญอย่างมาก ท่านก้งกงเป็นอีกผู้หนึ่งหลังจากยุคของเสินหนงที่ได้สร้างคุณประโยชน์มหาศาลในด้านพัฒนาการกสิกรรม
.
ด้วยความสามารถด้านการชลประทานของก้งกง ส่งผลให้เผ่าก้งกงเรืองอำนาจขึ้นอย่างมาก ประกอบกับการเสื่อมอำนาจของเผ่าส้าวเฮ่า อันทำให้จวนซีได้รับสืบทอดตำแหน่งแทนส้าวเฮ่า และทำให้ก้งกงเกิดความคิดอยากยึดครองอำนาจของตระกูลส้าวเฮ่าเช่นกัน ทั้งสองจึงเปิดศึกกันโดยปริยาย
.
แม้เผ่าก้งกงจะมีกำลังคนเหนือกว่าจวนซฺวี แต่ด้อยในการคิดอุบายกว่ากันมาก เนื่องจากในสมัยนั้น ชาวบ้านเชื่อถือในผีสางเทวดาอย่างฝังหัว และจวนซฺวีได้อาศัยประโยชน์จากการนี้บอกต่อชาวบ้านว่าวิธีการทำชลประทานของก้งกง ที่เคลื่อนย้ายปรับเปลี่ยนแผ่นดินขุดที่ดอนมาถมที่ลุ่ม จะทำให้สวรรค์พิโรธและนำพาความหายนะมาให้ ชาวบ้านจึงพากันต่อต้านวิธีการของก้งกงและหันมาสนับสนุนจวนซฺวี ทำให้ก้งกงต้องพ่ายแพ้แก่จวนซฺวีในการรบ
.
ก้งกงโกรธมาก จึงขี่มังกรทั้งสองตัวสละชีวิตพุ่งเข้าชนบรรพตปู้โจว เพื่อให้ยอดของบรรพตปู้โจว (ปัจจุบันคือเทือกเขาคุนหลุน) ถล่มลงมา
บรรพตปู้โจวถูกพุ่งชนหักกลาง ยอดครึ่งบนพังทลายราบลงมาเป็นหน้ากลองทันที จากนั้นผืนฟ้าและแผ่นดินก็เริ่มสั่นคลอน เนื่องจากบรรพตปู้โจวคือเสาค้ำยันผืนฟ้าและแผ่นดินเอาไว้ เมื่อเสาค้ำยันพังทลายไป แผ่นดินก็เอียงล้มไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ ส่วนผืนฟ้าล้มทลายลงทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ และเนื่องจากผืนฟ้าล้มทลายลงด้านตะวันตกเฉียงเหนือ ส่งผลให้หมู่ดาวขึ้นทางทิศตะวันออก และตกทางทิศตะวันตก และเนื่องจากแผ่นดินล้มไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ ส่งผลให้น้ำในแม่น้ำลำธารทั้งหลายต่างไหลมาทางทิศตะวันออกลงสู่ทะเลใหญ่ด้านทิศตะวันออกจนหมดสิ้น
.
ในบางตำนานโบราณก็จารึกเอาไว้ว่า ผลจากการที่บรรพตปู้โจวทลายลงในครั้งนั้น ได้ทำให้เกิดภัยพิบัติธรรมชาติครั้งใหญ่ จนก่อให้เกิดตำนาน “เทพีหนฺวี่วาหลอมหินห้าสีเพื่ออุดผืนฟ้า” ต่อเนื่องกันมา แต่บางตำนานก็กล่าวเอาไว้ว่า มหาภัยพิบัติที่ทำให้เทพีหนฺวี่วาต้องหลอมหินห้าสีมาอุดผืนฟ้านั้นเกิดขึ้นก่อนหน้านี้ และบรรพตปู้โจวนี้เป็นหนึ่งในสี่บรรพตค้ำยันฟ้าที่เกิดจากขาเต่าที่เทพีหนฺวี่วาตัดมาใช้ค้ำยันแทนเสาค้ำยันฟ้าเดิมที่พังทลายไป
.
#ตำนานจีน #ห้าตี้ #ท่านที่สอง #จวนซฺวี #สำนักพิมพ์สุรีย์พร


แก้ไขเมื่อ 11 มี.ค. 2561, 16:44 โดย Admin

Admin เข้าร่วมเมื่อ 5 มี.ค. 2561, 17:24

0 ความคิดเห็น