ข้อมูลส่วนตัว
|
ข้อความ
0
|
เข้าสู่ระบบ
/
สมัครสมาชิก
เลือกฟอร์ม
ตัวอย่างนิยายสามชาติสามภพ ย่างก้าวเกิดปทุม
ห้องคุยเรื่อง Honzuki no Gekokujou (หนอนหนังสือยึดอำนาจ)
ศึกจอมขมังเวท
ราชาแห่งราชัน
มนตร์อสูร
จอมนางคู่บัลลังก์
พิภพพญามังกร
BOSS จินตนาการพิสดาร
สามชาติสามภพ ป่าท้อสิบหลี่
สามชาติสามภพ ลิขิตเหนือเขนย
ฉันไม่อยากเป็นซินเดอเรลล่า
หย่งเยี่ย
ม่านม่านชิงหลัว
เรื่องย่อละครสี่องก์
เรื่องย่อวันวานดั่งดอกไม้สองภพชาติ (ชื่อเดิมเดือนปีคือดอกสองชีวิต)
เรื่องย่อ หนอนหนังสือยึดอำนาจ (Honzuki no Gekokujou)
ตัวอย่างศึกจอมขมังเวท
หัวซวีอิ่น...เพลงพิณแดนนิทรา
หย่งเยี่ย เล่ม 1
หย่งเยี่ย เล่ม 2
หย่งเยี่ย เล่ม 3
หย่งเยี่ย เล่ม 4
หย่งเยี่ย เล่ม 1 (แก้ไข)
อาหาร-ขนมของจีน
ปรัชญา / สำนวน / วรรณกรรม
เพลงจีนเก่า ๆ
ภาพยนตร์และซีรีส์จีน
สถานที่ท่องเที่ยว
เครื่องแต่งกายของจีน
การนับเวลาของจีน
ประเพณีและวัฒนธรรมของจีน
ตำนานจีน
เชิงอรรถบางส่วนจากเรื่อง หัวซวีอิ่น เพลงพิณแดนนิทรา
ห้องโปรโมทหนังสือ + แจ้งข่าวหนังสือ + กิจกรรมสำนักพิมพ์
ห้องประวัติศาสตร์จีนทั่วไป
ประวัติบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์จีน
ตำนานต่างๆ ของจีน
ตำราพิชัยสงครามซุนอู่
ห้องส่วนตัวของซีเรีย/หลินโหม่ว
ห้องเล่านิยาย
ห้องเล่าประสบการณ์เกี่ยวกับเรื่องลี้ลับ
คุยเรื่องหนังสือ
ติดต่อ-สอบถาม-สนทนาเรื่องทั่วไป
หน้าแรก
|
เว็บบอร์ด
|
สินค้าทั้งหมด
|
วิธีการสั่งซื้อ
|
การชำระเงิน
|
การจัดส่ง
|
ติดต่อเรา
หน้าแรก
ห้องโพสต์นิยาย
หัวซวีอิ่น...เพลงพิณแดนนิทรา
หัวซวีอิ่น...เพลงพิณแดนนิทรา # 13
เลือกขนาดตัวอักษร :
ก
ก
ก
ก
ก
หัวข้อ : หัวซวีอิ่น...เพลงพิณแดนนิทรา # 13
โพสต์เมื่อ 8 พ.ค. 2564, 10:44
.
ม้วนที่หนึ่ง จบชีวิตอันกลวงเปล่า
.
.
ตอนที่สอง (จบ)
.
.
สิบวันให้หลัง ก็มาถึงเมืองเยว่ เมืองหลวงของแคว้นเจียง
.
เสี่ยวหลานบอกว่าตลอดเส้นทางนี้ภูเขาสูงชัน ต้องลำบากอันตรายอย่างยิ่งเป็นแน่ พวกเราหารือกัน เห็นว่าประสบการณ์ด้านสังคมของเขาน่าจะมากมายกว่าข้าและจวินเหว่ย จึงหลับหูหลับตาเชื่อใจเขา เฝ้ารอคอยให้ความลำบากอันตรายมาเยือนอยู่ตลอด แต่เดินทางมาสิบวัน ปลอดภัยดีมาตลอดทาง แม้แต่โจรภูเขาปล้นทรัพย์ยังไม่เจอเลยสักราย
.
จวินเหว่ยถามข้าว่า “เจ้าว่าเมื่อไหร่ถึงจะได้เจอคนร้ายบุกมาโจมตีพวกเรารึ”
.
ข้าพูดว่า “ไม่รู้ รอไปเถอะ”
.
แต่รออยู่นานมาก คนร้ายก็ไม่ยอมมาเสียที พวกเรารอกันจนโมโหสุดขีด
.
คืนก่อนหน้าที่จะเข้าสู่เมืองเยว่ ในกลุ่มมีสตรีเพิ่มเข้ามาหนึ่งคน บอกว่าเป็นสาวใช้ควบองครักษ์ของเสี่ยวหลาน ชื่อว่า จื๋อซู่ พวกเราพบกับนางตอนที่ซื้อขนมเปี๊ยะทอดอยู่ริมถนน ฉากหลังคืออาทิตย์อัสดงดั่งโลหิต นางขี่ยอดอาชาสีขาวห้อตะบึงมาหา
.
จวินเหว่ยดึงข้าหลบไปด้านข้าง นางพลิกตัวลงจากม้า แขนเสื้อสีขาวจันทร์ปัดผ่านแก้มข้า ข้ากับจวินเหว่ยยังไม่ทันได้รู้เรื่องรู้ราวว่าเกิดอะไรขึ้น นางได้คุกเข่าตึงลงตรงหน้าเสี่ยวหลานดุจรอบข้างไร้ผู้คนเสียแล้ว มองเขาตาแดงก่ำพลางสะอึกสะอื้น
.
“กงจื่อ ในที่สุดจื๋อซู๋ก็ตามหาท่านพบแล้ว”
.
จื๋อซู่หน้าตางดงามสมส่วน กลางหน้าผากมีไฝแดงโดยกำเนิดหนึ่งเม็ด สำหรับเรื่องที่นางยืนกรานจะติดตามพวกเรานั้น เสี่ยวหลานไม่ได้บอกว่าดี และไม่ได้บอกว่าไม่ดี แต่จวินเหว่ยกลับพยักหน้าอนุญาตอย่างรวบรัดมาก เนื่องจากจื๋อซู่เป็นกูเหนี่ยงที่รูปโฉมงดงามจริงๆ จึงสะกิดความรู้สึกสงสารของจวินเหว่ยได้ง่ายดายยิ่ง
.
แต่ในขณะเดียวกับที่สงสารจื๋อซู่ จวินเหว่ยไม่พอใจเสี่ยวหลานอย่างมาก กระซิบกระซาบกับข้าว่า
.
“คนผู้นี้นี่เจ้าชู้จริงๆ แม้แต่องครักษ์ยังเป็นองครักษ์หญิงเลย”
.
แต่ข้าคิดว่า จะพูดอย่างนี้ก็ไม่ได้ ตอนออกมาจากเขาจวินอวี่ จวินซือฝุสั่งให้จวินเหว่ยคุ้มครองข้าให้ดีๆ ถือได้ว่าเป็นองครักษ์ของข้า อิงตามตรรกะนี้ ข้าไยมิใช่เจ้าชู้มากเช่นกัน
.
.
คืนวันนั้น พวกเราค้างคืนที่โรงเตี๊ยมแห่งหนึ่ง นอนไปถึงเที่ยงคืน เสี่ยวหวงคาบแขนเสื้อข้าเขย่าปลุกข้าจนตื่น อาศัยแสงจันทร์พินิจดูสีหน้าของมัน คล้ายจะเชิญให้ข้าร่วมเดินเล่นใต้แสงเดือนกับมัน
.
พวกเราทะลุผ่านระเบียงยาว เสือหนึ่งตัวคนตายหนึ่งคน ฝีเท้าเบาเสียจนแทบลอยขึ้นมา ขณะกำลังจะเดินเข้าไปในสวนท้ายเรือน ก็พลันได้ยินเสียงของจื๋อซู่
.
“หญิงผู้นั้นไม่ได้มีอะไรพิเศษ เหตุใดกงจื่อจึงไม่ยินยอมตามจื๋อซู่กลับจวนเล่า กงจื่อทราบหรือไม่ว่า ในหลายวันที่ท่านไม่อยู่นี้ ด้านเอ้อร์กงจื่อ นั่นได้มีการลอบเคลื่อนไหวอีกไม่น้อย จื๋อซู่ทราบดี จื่อเยียนกูเหนี่ยงทำร้ายกงจื่ออย่างลึกล้ำนัก แต่กงจื่อท่าน...ท่านต้องถือสถานการณ์ใหญ่เป็นสำคัญนะเจ้าคะ”
.
ข้าคิดในใจ เรื่องชาวบ้านนี้ข้าจะแอบฟังดี หรือไม่แอบฟังดี สุดท้ายศีลธรรมได้เอาชนะความสอดรู้ ตัดสินใจอย่าแอบฟังจะดีกว่า
.
แต่ข้ายังไม่ทันได้ชักเท้าจากไป เสี่ยวหลานก็ได้กล่าวต่อคำ น้ำเสียงทุ้มต่ำ ลอยตามลมราตรีมาถึงริมโสตข้า มีความรู้สึกที่คุ้นเคย
.
“พวกเจ้า” หยุดชะงักไปเล็กน้อย “หาจื่อเยียนพบแล้ว?”
.
ข้าลากเสี่ยวหวงถอยมาถึงประตูวงเดือน ได้ยินจื๋อซู่พูดพอดีว่า
.
“กงจื่อ ท่านรักจื่อเยียนกูเหนี่ยงอย่างลึกล้ำจริงใจ แต่นาง...นางคือสายลับที่แคว้นจ้าวส่งมา ใจนางคิดแต่จะวางแผนลอบสังหารท่าน นาง...”
.
เสียงค่อยๆ เลือนหายไปทางข้างหลังข้ากับเสี่ยวหวง
.
ใต้ชายคาระเบียง ข้านึกถึงความรู้สึกอันคุ้นเคยเมื่อครู่นี้ รู้สึกอย่างเลื่อนลอยว่าได้ย้อนกลับไปยังถ้ำแห่งนั้นเมื่อสามปีก่อนอีกครั้ง มู่เหยียนนั่งอยู่ตรงข้ามข้า นิ้วมือขาวนวลดีดบรรเลงพิณซึ่งสายทำมาจากเส้นไหม เรียวปากอมยิ้มจางๆ
.
เรื่องราวผ่านพ้นมาสามปี ความจริงข้าจำเสียงของเขาไม่ได้เสียแล้ว มีเพียงท่วงทำนองพิณเหล่านั้นที่ยังคงมักจะดังขึ้นที่ริมโสตข้าอยู่เนืองๆ พลิ้วไหวอ่อนช้อย เป็นเพลงที่ข้าร้องไม่เป็น
.
ดวงจันทร์ทั้งใหญ่ทั้งขาว ข้ายกมือขึ้นปิดตาไว้ เหมือนกับที่นิ้วมือของเขาเคยบังสองตาของข้า แต่ทว่าดวงตาคู่นี้ บัดนี้ได้ตายไปแล้วเช่นกัน
.
เรื่องนี้ช่างจนปัญญาโดยแท้
.
Admin
เข้าร่วมเมื่อ 8 พ.ค. 2564, 10:44
โพสต์เมื่อ 8 พ.ค. 2564, 10:44
0 ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น
ชื่อผู้โพสต์ :
*
ระบุตัวอักษรตามรูปภาพ :
ยกเลิก
เข้าสู่ระบบ
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก
หน้าแรก
เว็บบอร์ด
สินค้าทั้งหมด