หัวข้อ : แจ้งข่าวเรื่องพิภพพญามังกรค่ะ

โพสต์เมื่อ 5 ก.พ. 2555, 19:12

แจ้งข่าวเรื่องพิภพพญามังกร

 

จากที่ผู้อ่านทุกท่านสงสัยกันมานานว่าเกิดอะไรขึ้นกับเรื่องพิภพพญามังกร ถึงได้ดูลึกลับตอบไม่ได้ขนาดนั้น ตอนนี้เนื่องจากเหตุผลหลายๆ อย่าง จึงจะมาเฉลยให้ได้ทราบกันเสียทีค่ะ

 

ก่อนอื่น เริ่มที่ทำไมพิภพพญามังกรภาค 3 ถึงเงียบหาย ทั้งที่บางคนเห็นว่ามีปกภาค 3 ฉบับจีนออกมาแวบๆ?

 

ตอบ

ภาค 3 ฉบับไต้หวันออกมาแล้วจริง มี 3 เล่ม แต่ถูกทางสำนักพิมพ์เก็บกลับทั้งหมดหลังจากที่เพิ่งวางแผงได้เพียง 2 สัปดาห์ เนื่องจากมีผู้อ่านที่ซื้อไปอ่านร้องเรียนมาว่า เนื้อหาในเล่ม 3 จำนวน 20,000 ตัวอักษรสุดท้าย ผู้เขียนไปลอกเขามา

เมื่อได้รับการร้องเรียน ทางสำนักพิมพ์เวยเซี่ยงได้ทำการตรวจสอบทันที โดยในขั้นแรกก็ได้ถามไปยังผู้เขียน แต่ผู้เขียนปากแข็งว่า “แค่แรงบันดาลใจ” เพียงแต่หลักฐานข้อความมัดตัวแน่นจนดิ้นไม่หลุด สุดท้ายจึงต้องยอมรับว่าลอกมาจริง และลงประกาศขอโทษเจ้าของเรื่องในบอร์ดของตัวเอง

หลังจากได้ข้อสรุปว่าลอกจริง ทางสำนักพิมพ์ได้สั่งเก็บเรื่องพิภพพญามังกร ภาค 3 กลับทั้งหมดโดยด่วนเพื่อรักษาเครดิตของสำนักพิมพ์ จากนั้นประชุมด่วนเพื่อลงมติตัดสินลงโทษฮัวเสี่ยวเยว่ผู้เขียน

 

ความเสียหายจากการที่พิภพพญามังกรภาค 3 ต้องถูกสั่งเก็บกลับทั้งหมดเนื่องจากเล่ม 3 ช่วงท้ายไปลอกเขามาทั้งดุ้นนั้น มีดังนี้

 

1. ค่าจัดพิมพ์ ค่าวาดปก และอื่นๆ ที่เกี่ยวกับการพิมพ์หนังสือนี่คงไม่ต้องพูดถึง และมันทั้ง 3 เล่ม

2. ตอนนั้นใกล้ช่วงงานสัปดาห์หนังสือของไต้หวัน ห่างประมาณแค่เดือนเดียว ทางสนพ.พิมพ์จึงทุ่มโปรโมทให้เรื่องนี้ไม่ใช่น้อย ผลคือต้องเสียค่าโฆษณาไปเปล่าๆ

3. ยอดขายในงานที่หวังไว้เต็มที่ต้องชวดทั้งหมด

 

 

ส่วนสาเหตุที่ทำไมถึงเพิ่งมารู้กับหลังหนังสือออกว่าลอกเขามานั้น มีดังนี้

 

1. ต้องยอมรับว่าเดี๋ยวนี้หนังสือในท้องตลาดมีเยอะมาก สำนักพิมพ์ก็ผุดขึ้นเป็นดอกเห็ด ในไต้หวันเองก็ด้วย แล้วแต่ละสำนักพิมพ์ก็เร่งพิมพ์ออกมาเดือนละตั้งไม่รู้กี่เล่มกี่เรื่อง อ่านกันไม่หวาดไม่ไหว แถมบก.ที่มีหน้าที่ตรวจต้นฉบับแค่เร่งตรวจให้ทันส่งโรงพิมพ์เดือนชนเดือนก็จะอ้วกแล้ว จะเอาเวลาที่ไหนไปอ่านนิยายเรื่องอื่นของคนอื่น ดังนั้นการที่บก.ไม่รู้ว่าเนื้อหาส่วนนั้นลอกมา จึงพอจะเป็นที่เข้าใจได้

 

2. ฮัวเสี่ยวเยว่ผู้เขียนอาจจะกลัวว่าการลงนิยายในเน็ตมากเกินไป คนจะไม่ยอมซื้อนิยายอ่าน เรื่องพิภพพญามังกรจึงลงในเน็ตแค่ภาค 1 เล่ม 2 ช่วงต้นๆ ก็ไม่ได้ลงอีกเลย ดังนั้นคนอ่านจึงได้มาเห็นว่าคนเขียนลอกนิยายเรื่องอื่นก็ตอนที่ออกมาเป็นเล่มแล้ว เพราะเหตุนี้ความเสียหายที่ก่อแก่สำนักพิมพ์จึงเยอะมาก แทนที่จะรู้ตั้งแต่อยู่ในเว็บว่าลอก และแก้ไขทันก่อนจะส่งพิมพ์เป็นเล่ม ก็กลายเป็นมารู้เมื่อสายเกินไปและเสียหายอย่างรุนแรงแก่ทุกฝ่าย

 

 

การลงโทษที่ทางสำนักพิมพ์เวยเซี่ยงมีต่อฮัวเสี่ยวเยว่คือ ไล่ออกจากการเป็นนักเขียนของสำนักพิมพ์ เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างแก่นักเขียนคนอื่น ส่วนเรื่องพิภพพญามังกร ภาค 1-2 นั้น เนื่องจากติดสัญญาอยู่กับทางสนพ.ฟิสิกส์ของไทย และโดยเนื้อหาแล้วก็ไม่ได้ลอกเขามาแต่อย่างใด จึงยังคงให้จัดพิมพ์ขายต่อไปตามปกติ

 

 

เนื่องจากทางไต้หวัน ฮ่องกง มาเก๊า ถืออย่างมากเรื่องลอก ดังนั้นจึงพูดได้ว่า ฮัวเสี่ยวเยว่หมดอนาคตแล้วในการออกหนังสือในไต้หวัน ฮ่องกง และมาเก๊า

เนื่องจากจีนแผ่นดินใหญ่เข้มงวดมากเรื่องนิยายวาย ไม่อนุญาตให้ตีพิมพ์โดยเด็ดขาด ดังนั้นเรื่องพิภพพญามังกรจึงหมดโอกาสตีพิมพ์ในจีนแผ่นดินใหญ่เช่นกัน

กับสปีดการเขียนของฮัวเสี่ยวเยว่ ที่หนึ่งปีเล่มได้แค่เล่มบางๆ 2 เล่ม แถมนั่นคือเขียนแล้วได้เงิน เมื่อกลายมาเป็นเขียนไปก็ไม่ได้เงิน ไม่ได้ตีพิมพ์ แถมโดนคนอ่านส่วนหนึ่งสาปส่งคว่ำบาตรเพราะเรื่องไปลอกเขามา ลองนึกดูเองแล้วกันนะว่าพิภพพญามังกรมีเปอร์เซ็นต์ที่จะเขียนจนจบได้มากแค่ไหน

 

 

ต่อมา จะขอบอกถึงความรู้สึกของผู้แปลที่มีต่อฮัวเสี่ยวเยว่ ผู้เขียนพิภพพญามังกร และสิ่งที่ผู้แปลได้รู้มา

 

1. ดังที่เคยบอกไปแล้วว่า เรื่องพิภพพญามังกรเป็นเรื่องที่แปลยากนรกมาก ไม่ใช่สำนวนสวยหรูวิลิศมาหรา แต่แปลยากเพราะอ่านให้รู้เรื่องได้ยากมากว่าคนเขียนต้องการจะสื่ออะไร ประโยคยาวมากกกกก คำขยายซ้อนขยายซ้อนขยายตั้งไม่รู้กี่ชั้นจนหาคำหลักไม่เจอ ลำดับประโยคมั่วซั่ว ความหมายซ้อนไปมาสลับไปมา ใช้คำผิดความหมายบ่อย และมี BUG เพียบ อย่างที่ตอนที่ยังคงแปลลงในเว็บเด็กดี มีน้องคนหนึ่งที่เรียนอยู่ในจีนมาคอมเมนต์บอกว่า เคยอ่านเรื่องพิภพพญามังกรฉบับจีน เล่ม 1 ในเว็บ แล้วอ่านไม่รู้เรื่องเลย เลยเลิกสนใจที่จะอ่าน เพิ่งจะมาอ่านรู้เรื่องก็จากภาษาไทยที่ดิฉันแปล

2. นักเขียนของเวยเซี่ยงคนหนึ่งบอกดิฉันว่า ต้นฉบับเรื่องพิภพพญามังกรต้องใช้บก.ช่วยแก้ไขและพิสูจน์อักษรถึง 5 คน คือต้องอ่านแก้กัน 5 เที่ยว กว่าจะกล้าพิมพ์เป็นเล่ม เพราะต้นฉบับดิบของผู้เขียนที่ส่งมาภาษาจีนแย่มากๆ และถึงขนาดว่าแก้กันอย่างนี้แล้ว ในเล่ม 2 ยังมีโผล่เขียนคำผิดจาก “ไม้พาย” ของเรือเป็น “หางเสือเรือ” ทั้งช่วงมาได้เลย

3. คนเขียนเคยให้สัมภาษณ์ตอนท้ายเล่ม 5 ของภาค 1 ว่า คู่อื่นอาจจะวายได้ แต่พระเอกเรื่องนี้ไม่วายแน่นอน แต่เนื้อหาในภาค 3 ที่ถูกเก็บกลับแสดงออกชัดมากว่าคิดจะจับคู่ให้พี่สี่กับอ๋าวเยี่ยน เท่ากับว่าคนเขียนกลืนน้ำลายตัวเอง

4. ในเนื้อหาของภาค 3 ทั้งหมดที่บก.ไต้หวันส่งมาให้ดิฉันอ่าน ก่อนที่จะเกิดเรื่องลอกและเก็บหนังสือกลับ มีจุดที่อ่านแล้วต้องขมวดคิ้วเยอะมาก เช่น

- ตัวละครในภาค 1-2 ถูกทิ้งหมด มาเขียนตัวละครใหม่เกือบทั้งหมด

- ในภาค 3 เริ่มเรื่องต่อจากท้ายภาค 2 ว่า อ๋าวเยี่ยนหลุดเข้าไปในหลุมดำนั่น แล้วข้ามมิติไปยุคอดีตที่เมิ่งเจ๋อยังอยู่ โดยอ๋าวเยี่ยนกลืนไข่มุกที่ขันทีหน้าผีเคยมีลงไป ทำให้สามารถสร้างภาพลวงตาตบตาคนอื่นได้ว่าตัวเองเป็นเด็กหนุ่มอายุ 18 ปี หน้าตาก็คือเป็นแบบเด็กกำพร้าเวินเยี่ยนคนนั้น ฟังดูก็ไม่อะไรหรอก เพียงแต่ ไข่มุกนั่นสร้างได้แค่ “ภาพลวงตา” แล้วส่วนสูง ช่วงก้าว เสียงของเด็ก 1 ขวบกับเด็กหนุ่ม 18 ปี คนเขียนไม่ได้บอกแม้แต่คำเดียวว่าทำไมประเด็นพวกนี้ไม่ได้ทำให้ความแตกว่าความจริงอ๋าวเยี่ยนเป็นแค่เด็กหนึ่งขวบ ทั้งที่ตอนขันทีใช้ ไข่มุกไม่ได้ช่วยเปลี่ยนเสียงให้เลย

- เล่ม 1 ของภาค 3 เนื้อเรื่องเป็นในโลกอดีตทั้งหมด ตอนจบเล่มเมิ่งเจ๋อช่วยส่งอ๋าวเยี่ยนกลับโลกมนุษย์ เป็นอันว่าตัวละครในเล่ม 1 ของภาค 3 ที่เป็นเพื่อนใหม่ของอ๋าวเยี่ยนทั้งหมดถูกทิ้งไปทั้งชุด

- ในเล่ม 2-3 อ๋าวเยี่ยนก็ใช้ไข่มุกตามเคย ความไม่ยักแตกตามเคย เนื้อเรื่องโดยทั่วไปคืออ๋าวเยี่ยนในร่างเด็กหนุ่มเวินเยี่ยนหลั่นล้าหาเงินด้วยการเอานิยายเรื่องเจาะเวลาหาจิ๋นซีมาเล่าขาย ไม่มีการคิดไปช่วยเพื่อนที่ติดอยู่ในเมือง โดยผู้เขียนบอกแค่ว่า อ๋าวเยี่ยนเห็นว่าอ๋าวเสวียนน่าจะจัดการให้เองทั้งหมด ตัวเขาไม่ต้องไปกังวล ทั้งที่ในเล่ม 5 ก็บอกไว้ชัดเจนว่าอ๋าวเสวียนจะไม่ยุ่งเรื่องมนุษย์ และอ๋าวเยี่ยนมุ่งมั่นมากที่จะช่วยเพื่อน

- แน่นอนว่าในเมื่อหลั่นล้าหาเงิน ก็ต้องเจอเพื่อนกลุ่มใหม่ ส่วนเพื่อนเก่าก็ส่วนหนึ่งโดนแช่แข็งอยู่ในเมือง อีกส่วนไม่ได้โคจรมาเกี่ยวข้องกันแบบจริงจังอีก อย่างเช่นท่านอ๋องเยี่ยนจิ่งรุ่ยนั่นก็โผล่หน้ามานิดเดียว ไม่ได้มายุ่งเกียวอะไรด้วยอีกเลย

- เนื่องจากฤทธิ์ของไข่มุก ทำให้พวกมังกรตามหาตำแหน่งของอ๋าวเยี่ยนไม่พบ อ๋าวเสวียนก็ปลอมตัวออกตามหาน้อง (แน่นอนว่าไม่มีความคิดไปช่วยพวกเฉินคานที่โดนแช่แข็งอยู่ในเมืองเลย เจี๋ยเซียวก้โดนทิ้งไว้ในเมืองเหมือนกัน) ส่วนอ๋าวเยี่ยนก็อยู่ในร่างที่อ๋าวเสวียนไม่รู้จัก พอเจอหน้ากันเลยต่างคนต่างไม่รู้จักกัน แต่เพราะอ๋าวเยี่ยนมีกลิ่นอายมังกร อ๋าวเสวียนจึงพาตัวมาสนิทด้วย ท่านแม่เองก็หนีมาเที่ยวด้วยเหมือนกัน มาเจอลูกชายสองคน ก็จำอ๋าวเยี่ยนไม่ได้ แต่พูดสนับสนุนให้ลูกชายสองคนรักกันเต็มที่

- จากนั้นเนื้อเรื่องก็โดนลากโยงออกไปสู่ปมปัญหาใหม่ โดยที่ปมเดิมไม่โดนแก้สักปม เนื้อเรื่องยิ่งเลยเถิดมากขึ้นเรื่อยๆ แบบเห็นชัดเจนว่าคนเขียนจงใจยืดเรื่อง แล้วไปจบลงตรงฉากต่อสู้ของพวกมนุษย์กับขุนพลจากพิภพมารแลงเกอร์เทส ซอว์เยอร์ที่รอดกลับมาได้ ซึ่งฉากต่อสู้นี้แหละที่ลอกเรื่องอื่นมาล้วนๆ เพราะคนเขียนไม่มีปัญญาเขียนเองให้มันอ่านแล้วมันส์และดูเท่

 

ด้วยสาเหตุในด้านข้อบกพร่องของเนื้อเรื่องทั้งหมดที่ได้ร่ายมา บวกกับเรื่องที่คนเขียนเสียประวัติเรื่องไปลอกเขามา บวกกับภาษาจีนของคนเขียนแย่มาก ทำให้ดิฉันตัดสินใจทิ้งเรื่องนี้แต่เพียงเท่านี้ เพราะไม่คิดจะส่งเสริมให้นิยายที่ผู้เขียนมีประวัติว่าไปลอกเขามาสามารถโกอินเตอร์ ได้รับการแปลเป็นภาษาไทย

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากการที่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นกับเรื่องพิภพพญามังกร เป็นความผิดของฮัวเสี่ยวเยว่ผู้เขียนเพียงคนเดียวล้วนๆ สำนักพิมพ์เวยเซี่ยงไม่ได้ผิด สำนักพิมพ์ฟิสิกส์ไม่ได้ผิด แถมยังเป็นฝ่ายได้รับความเสียหายเนื่องจากพฤติกรรมของผู้เขียนทั้งคู่ บวกกับไม่ว่าอย่างไรภาค 1 กับ 2 ผู้เขียนก็ไม่ได้ลอกเรื่องไหนมา และมันก็เขียนได้สนุกดี ดังนั้นจึงไม่ต้องการทำสิ่งใดที่จะทำให้สำนักพิมพ์ที่ไม่ได้เป็นฝ่ายผิดได้รับความเสียหาย + รักษาภาพพจน์ที่ดีที่มีต่อเรื่องพิภพพญามังกรในใจของผู้อ่านไปก่อน ไว้ถึงเวลา เมื่อกระแสมันแผ่วลง ความรู้สึกไม่ได้รุนแรงมากเท่าตอนที่เรื่องเพิ่งเกิด ค่อยมาบอกความจริงให้ได้ทราบกันค่ะ

 

 

นับถือ

หลินโหม่ว

9 ก.ย. 2554


แก้ไขเมื่อ 15 ก.พ. 2555, 05:32 โดย

หลินโหม่ว เข้าร่วมเมื่อ 5 ก.พ. 2555, 19:12

7 ความคิดเห็น