บริดจ์ร็อกเค้าคนละสายงานกับเคียวโกะนี่คะ พวกนั้นเค้าเป็นวงดนตรีผสมกับพิธีกรวาไรตี้ โทรไปขอคำปรึกษาเรื่องการแสดงคงไม่ไหวหรอกค่ะ <<< แต่เทียบความสนิทสนมคุ้นเคยเป็นกันเองในช่วงแรก บริดร็อกน่าจะเป็นตัวเลือกแรกที่เคียวโกะจะลองถามดูมากกว่าเรนนะ ถึงจะคนละสายงาน แต่ก็วงการบันเทิงเหมือนกัน เป็นงานที่ต้องปั้นหน้าเพื่อสร้างความบันเทิงให้แก่ผู้ชมเหมือนกัน
ในฉบับไต้หวัน มีบอกด้วยนะว่าชื่อ "บริดร็อก" เอามาจากนามสกุลของทั้งสามคนที่มีนามสกุลเดียวกัน คือ "สือเฉียว" (อ่านแบบจีนน่ะนะ แปลว่า สะพานหิน) จากนั้นเอาความหมายมาสลับที่กัน ก็กลายเป็น "บริดร็อก" (หินสะพาน) ดังนั้นคิดว่าสามคนนี้อาจไม่ได้เป็นนักร้อง เป็นแค่พิธีกรเฉยๆ มั้ง เพราะดูจากลักษณะรายการที่เชิญดาราจากวงการบันเทิงสายต่างๆ มา ทั้งฮิเอเอย นางแบบขวัญใจวัยรุ่นเอย
ความจริงตามมารยาทที่ดี เคียวโกะควรจะเม็มเบอร์เร็นสิคะ แอบงงมากเลย = =" แต่หนูว่าบางทีเคียวโกะอาจจะจำเบอร์เร็นขึ้นสมองตั้งแต่ขอครั้งแรกก็ได้นะคะ ก็เลยไม่คิดจะเม็ม คุณเธอออกจะละเอียดละออ ช่างสังเกต ช่างจดช่างจำซะขนาดนี้ (ขนาดสัดส่วนร่างกายยังจำได้แม่นซะ)
ประเด็นมันอยู่ที่ประโยชน์ของการเม็มเบอร์นอกจากจะไม่ต้องจำเบอร์แล้ว เวลาคนคนนั้นโทรเข้ามา ยังจะโชว์ชื่อให้เห็นด้วยไม่ใช่เหรอ...ถึงเคียวโกะจะจำเบอร์เร็นได้ แต่เวลาเร็นหรือซาวารโทรเข้า เคียวโกะไม่เคยแยกออกเลย แม้แต่ตาโชกับเรโนโทรมาก็ไม่รู้ น่าจะเม็มเบอร์ไปซะจะได้แยกออก อันนี้พี่ก็งงด้วยคนว่าทำไมถึงไม่เม็มเบอร์ ถ้าทำไม่เป็นน่าจะให้เร็นทำให้ไปเลย ไหนๆ ก็โทรติดต่อกันบ่อยนิ v_v"
พี่คิดตรงข้ามแฮะ ว่าเรโนนี่ ถ้าเร็นประกาศเป็นแฟนกับเคียโกะ ท่าตะแกจะไม่กล้าเข้ามายุ่งแล้วหรอก ยังรักชีวิตอยู่ เห็นกลัวเร็นจะตาย แต่โชนี่อาจจะไม่สนจริงๆ ก็ได้ ถึงขนาดกล้าจูบเคียวโกะต่อหน้าเร็น เรโนขนาดเคียวโกะบอกวันวาเลนไทน์เร็นอยู่ในกองถ่ายด้วย จะขอให้เธอให้ช็อกโกแล็ตในวันนั้นถึงต้องเจอเร็นก็ไม่เป็นไรแน่นะ เรโนยังยอมประนีประนอม + รีบเผ่นแนบไปโดยพลันเลย
พี่ก็ว่าคิชิมาเป็นม้ามืดมาเหนือเมฆที่น่ากลัวมากทีเดียว เร็นได้ปวดขมับหนักแน่ๆ จริงๆ
ความต่างที่มากที่สุดของเคียวโกะหลังเปลี่ยนบุคลิกคือ รู้จักคิดถึงตัวเอง พยายามทำโน่นทำนี่เพื่อตัวเอง จากที่เมื่อก่อนมีแต่ทำโน่นทำนี่เพื่อคนอื่น และปฏิเสธ + ปิดกั้นความรักของคนต่างเพศโดยสิ้นเชิง
พี่รู้สึกว่าโชนี่เหมือนกับทีแรกมีเพชรที่ยังไม่ได้เจียระไนอยู่ในมือ แต่นึกว่ามันเป็นกรวด เลยไม่เห็นค่า บวกกับมีพวกพลอยกับเพชรเก๊มารุมล้อมมากมาย เลยหลงไปกับความสวยงามฉาบฉวยพวกนั้นและโยนเพชรในมือทิ้งไป แต่พอได้เจอเคียวโกะตอนแต่งตัวเป็นนางฟ้าที่สวยหยาดเยิ้ม ก็อารมณ์ประมาณ อ้าว กรวดที่ตูทิ้งไปความจริงเป็นเพชรหรอกเรอะ จึงเกิดเห็นค่า + ในตอนนั้นโชเริ่มจะมองเห็นแล้วว่าพวกที่รุมล้อมตัวเขาอยู่มีแต่พลอยกับเพชรเก๊ทั้งนั้น และเกิดความคิดว่ายังไงกรวดเม็ดนั้นก็ยังเป็นของของฉันอยู่ (ก็เป็นเหมือนสาวใช้ของเขามาตั้งแต่เด็กนี่นะ) เลยนึกอยากจะเก็บกลับมาอีกครั้ง (แต่เสียใจด้วย สายไปแล้วเฟ้ย) บวกกับเมื่อได้รู้ว่าเร็นที่เหนือกว่าตัวเอง (และตาแหลมกว่า) ทำท่าจะเอาเพชรเม็ดนี้ไปประดับเรือนแหวนเหมือนกันก็เกิดอารมณ์หวงของขึ้นมา รีบเข้าไปแย่งเพชรน้ำเอกเม็ดนั้นกลับมา
โชสนิทกับเคียวโกะและไม่ต้องวางมาดเวลาอยู่กับเคียวโกะก็จริง แต่เพราะเมื่อก่อนเคียวโกะตามใจโชตลอดจนโชเห็นเป็นของตายที่น่าเบื่อ จืดชืดไร้เสน่ห์ (เพราะแต่งตัวไม่เป็นและไม่มีจริต) ไร้ความท้าทาย (ความท้าทายนี่สำคัญนะ เพราะผู้ชายส่วนมากชอบเป็นนักล่า) บวกกับตอนนั้นเพิ่งเข้าวงการบันเทิงได้ไม่นาน กำลังติดลมกับการเป็นจุดสนใจ เป็นที่นิยม มีสาวๆ มารุมกรี๊ด จนไม่รู้สึกเบื่อหรือเหนื่อยกับการที่ต้องปั้นหน้าวางตัวเพื่อสร้างภาพตลอดเวลา
ความจริงแล้ว โชเองต่างหากที่แทบไม่ได้เห็นเนื้อแท้ของเคียวโกะอีกเลยหลังจากสลัดรักเคียวโกะไปแล้ว <<< พี่ว่าในตอนนี้ โชก็ยังเป็นคนที่เข้าใจเคียวโกะและรู้ความคิดของเคียวโกะมากที่สุดอยู่นะ ยังไงก็อยู่ด้วยกันเล่นด้วยกันแค่สองคนมาตั้งแต่จำความได้นี่ สังเกตได้จากช่วงอีเวนต์วาเลนไทน์ ตอนที่เคียวโกะบอกว่าไม่ได้เตรียมช็อกโกแลตให้เรน โชก็ทำหน้ายักษ์ถามทันทีว่าแสดงว่าเตรียมอย่างอื่นที่ไม่ใช่ช็อกโกแลตให้สินะ ทำให้เคียวโกะตกใจมากว่าโชรู้ได้ไง ทั้งที่กระทั่งโมโกะยังไม่เอะใจเลย แถมโชยังสังเกตเห็นที่เคียวโกะหูแดงด้วยความเขินตอนพูดถึงว่าเตรียมของอย่างอื่นที่ไม่ใช่ช็อกโกแลตให้เรนอีก ถ้าเร็นสามารถเข้าใจเคียวโกะได้เท่ากับโช ป่านนี้คงรู้ไปนานแล้วว่าเคียวโกะก็มีใจให้เขาเหมือนกัน เพียงแต่เคียวโกะพยายามปิดกั้นและปฏิเสธตัวเองไม่ยอมรับรู้เท่านั้น
ส่วนเรโน ถึงหมอนี่จะโรคจิต แต่ดูจะเข้าใจวงจรความคิดของโรคปฏิเสธความรักของเคียวโกะได้อย่างดีเยี่ยม เวลาหมอนี่พูดกับเคียวโกะทีไรเลยฮาแตกทุกที ^^" ขำตรงเคียวโกะเชื่อฝังหัวว่าเรโนไม่ใช่คน เป็นมนุษย์โลกปิศาจนี่แหละ แล้วเรโนไม่เคยสนใจจะเข้าใจตัวตนของเคียวโกะด้วยมั้ง สนใจแต่จะให้ได้อย่างที่ตัวเองต้องการอย่างเดียว
สำหรับหนู กรณีที่หมายถึงคือมีแฟนเป็นคนอื่นที่ไม่ใช่เร็นค่ะ ^^" เพราะถ้าเป็นเร็น เรโนคงกลัวจนไม่กล้ายุ่งอย่างที่ว่านั่นแหละค่ะ แต่ตอนนี้ยังไงเร็นก็มีสิทธิเข้าวินมากที่สุดอยู่แล้วล่ะ
บางทีเคียวโกะอาจจะเม็มเบอร์ไม่เป็นจริงๆ ก็ได้นะคะ แต่มีเบอร์โมโกะซัง ก็แปลกดีเหมือนกัน บางทีโมโกะซังอาจจะทำให้เคียวโกะเลยก็ได้ เพื่อตัดปัญหายุ่งยาก (แต่เป็นหนู หนูคงสอนวิธีเม็มเบอร์ให้กับเคียวโกะไปเลยนะคะ)
หนูว่าเพราะอยู่กับเคียวโกะนานเกินไปนี่แหละค่ะ ทำให้โชไม่เห็นเนื้อแท้ของเคียวโกะ เพราะมันเป็นของที่ชินตาไปแล้ว นิสัยด้านดีๆ ของเคียวโกะหลายด้าน โชน่ะมองข้ามมันไป โชเข้าใจนิสัยของเคียวโกะ แต่หนูว่าโชไม่ได้ตีความว่ามันเป็นข้อดีของเคียวโกะซักเท่าไหร่ โชไม่ได้สนใจเคียวโกะที่พยายามเต็มที่ในทุกเรื่อง ที่พยายามทำให้เขามีรอยยิ้มเลย แต่สนใจเคียวโกะเมื่อเคียวโกะเปลี่ยนร่างกลับมาแก้แค้นเขาแล้วมากกว่า
แต่ความจริงแล้ว หนูว่าโชชอบมุขตลกของเคียวโกะนะคะ อย่างตอนบีเกิ้ลเนี่ย = =" ขำจนท้องแข็ง แล้วก็เริ่มมาบ่นเรื่องอยู่กับเคียวโกะได้เป็นตัวของตัวเองที่สุด = =" ก็... นะ แล้วจะทิ้งเคียวโกะไปทำไมล่ะ
หนูว่าที่โชคิดว่าเคียวโกะต้องเตรียมอย่างอื่นให้เร็นตอนวาเลนไทน์แน่ๆ คงเป็นเพราะความระแวงด้วยส่วนหนึ่งแหละค่ะ ก็อุตส่าห์โทรไปหา ปรากฏว่าเคียวโกะดันถามว่าเป็นเร็นรึเปล่า โชคงหึงหน้ามืดไปเลยล่ะค่ะ อย่างโมโกะซังที่ไม่ต้องระแวงว่าเคียวโกะจะทำอะไรให้เร็นรึเปล่า (ยังแปลกใจที่เคียวโกะไม่ได้ทำให้เร็น) ก็เลยไม่คิดมากในเรื่องนี้
ช่วงนี้นั่งเพ้อเล็กๆ คิดว่าถ้าญี่ปุ่นจะทำละคร Skip Beat จะเอาใครมาแสดงค่ะ ^^"
แต่แบบ ไปดูโปรไฟล์ดาราญี่ปุ่นแต่ละคร คนสูง 180+ นี่หายากมากกกกกก คนที่สูงเกิน 180 ออร่าก็ไม่ใช่เร็น ขณะที่คนมีออร่าแบบโชน่ะเยอะมากค่ะ (ฮา) แต่ตอนนี้รู้อย่างเดียว... สำหรับบทของคู ฮิซึริ ยังไงก็ต้องเป็นป๋าทาคุยะค่ะ หุหุ
มีข่าวลือว่าจะมีเวอร์ชั่นละครโปรดักชั่นเกาหลี แต่คนที่มีข่าวจะมารับบทเร็นนี่แบบ... = =" เอ่อ... ไม่เอาไอดอล ขอเป็นนักแสดงจริงๆ ได้มั้ย ไม่เอาแบบซีวอนคราวโปรดักชั่นไต้หวันนะ T^T
สำหรับหนู กรณีที่หมายถึงคือมีแฟนเป็นคนอื่นที่ไม่ใช่เร็นค่ะ ^^" <<< อืม ถ้าเคียวโกะเป็นแฟนกับคนอื่นที่ไม่ใช่เร็น ท่าทางแฟนคนนั้นคงได้เดือดร้อนน่าดูชม...และก็ใช่ เรโนคงไม่มีทางยอมรามือง่ายๆ แน่
ตอนท่านประธานลอรี่โทรหาเคียวโกะรอบสองก็สั่งให้เคียวโกะเม็มเบอร์ด้วยนี่ ไม่เห็นเคียวโกะจะแสดงท่าว่าเม็มเบอร์ไม่เป็นเลย ไม่ยอมเม็มเบอร์เองต่างหาก
เรื่องโชเข้าใจนิสัยเคียวโกะแต่มองไม่ออกว่าข้อดีของเคียวโกะคือข้อดีเพราะชินกับมันไปแล้วนี่ส่วนหนึ่งเห็นด้วย อีกส่วนหนึ่งเห็นว่าโชไม่ค่อยจะมองเห็นความพยายามของเคียวโกะกับมองข้ามด้วย เพราะคงไม่เคยได้เห็นตอนที่เคียวโกะพยายามเพื่อเขาสักเท่าไหร่หรอก เนื่องจากเวลาที่พยายาม เคียวโกะจะแอบไปพยายามอยู่คนเดียวนี่ แม้แต่ตอนร้องไห้ก็ด้วย มีแต่คอร์นที่ได้รับฟังความทุกข์ของเคียวโกะ ส่วนโช เคียวโกะแสดงให้เห็นแต่ด้านที่มีความสุขของตัวเองตลอด
เรื่องไม่ได้เตรียมช็อกโกแลตให้เรน พี่ว่ามันอยู่ที่วิธีการพูดของเคียวโกะที่โชรู้ทันมากกว่า...เพราะโชดูจะรู้วิธีคิดและวิธีพูดของเคียวโกะดีมาก เหมือนที่เคียวโกะเองก็รู้วิธีคิดและวิธีพูดของโชเหมือนเป็นตัวของโชเอง ขณะที่โมโกะยังไงก็ยังไม่คุ้นกับเคียวโกะมากเท่าโชล่ะนะ
คนจะแสดงเป็นเร็นได้ ถ้าจะเอามาดและหน้าตาต้องระดับนายแบบฝรั่งโน่น เพราะเร็นเป็นฝรั่งนี่ แต่ไอ้ที่จะเอาทั้งมาดให้และแสดงเก่งนั้นยากส์ ความจริงพี่ว่าบางทีพระเอกละครของไทยกลับจะดูเหมาะกับบทเร็นมากกว่านะ ตรงหน้าตา ส่วนสูงนี่ยังไงก็หาไม่ได้หรอก
ในเล่ม 28 ตอนเรนโทรหาเคียวโกะ มือถือของเคียวโกะโชว์ชื่อเรนแล้ว แสดงว่าในที่สุดเคียวโกะก็เม็มชื่อเรนไว้ในมือถือ หลังจากไม่เม็มซะนาน คงเม็มหลังเจอเหตุการณ์มิสคอลสายไม่รับดับสยองติดต่อกันช่วงอีเวนต์วาเลนไทน์นั่นแหละ
เรื่องเคียวโกะแอบไปร้องไห้คนเดียว จำได้ว่าในฉากแสดง mv ให้โช เคียวโกะก็บอกโชอยู่ เพราะโชมันก็รู้ตัวว่ามันเป็นคุณชาย สบายเคยตัว ไม่เคยเข้าใจความลำบากของเคียวโกะ และก็เลยทำตัวไม่ถูกเวลาเห็นเคียวโกะเศร้า โชเคยเห็นเคียวโกะรอ้งไห้เพราะแม่แล้วทำตัวแข็งไปเลย เคียวโกะเองก็รู้ตัวทำให้ภายหลังต้องหลบไปร้องไห้คนเดียวในสถานที่ลับๆจนมาเจอเรน ในสภาพคอร์น
อีกอย่างสาเหตุที่โชไม่รู้เรื่อง คอร์นคงเพราะ เคียวโกะคงไม่เล่าหรอกว่าไปเจอคอร์นเพราะแอบไปร้องไห้อยู่
ทำให้จริงๆแล้ว โชก็รู้จักเคียวโกะแค่เฉพาะด้านที่เคียวโกะแสดงออกให้เห็นเท่า่นั้นอีกอย่างนิสัยตานี่ก็ออกจะสนใจแต่ตัวเอง(หลงตัวเอง) คงไม่คิดจะสนใจคนอื่นเ่ท่าไร
ตอนแรกสงสัยกับคาแร็กเตอร์ของโชมาก ที่ตอนแรกไม่ได้ชอบเคียวโกะเลยแล้วตอนหลังเปลี่ยนมาเป็นชอบ แต่เราเพิ่งดูหนังเรื่อง Flipped จบไป ตาพระเอกนั่นมันคือตาโชเลย ดูแล้วเข้าใจตาโชขึ้นเยอะว่ามันทำไมกลายเป็นคนแบบนี้
หมายถึงเรื่องนี้สินะ
http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=prince-who&month=24-02-2011&group=4&gblog=24
ไม่เคยดูหรอก แต่อ่านจากที่เขารีวิวแล้ว คิดว่านิสัยของโชน่าจะต่างจาก Bryce อยู่นะ เพราะช่วงหลายเดือนแรกที่โชโกะจากไป ย้ำว่าหลายเดือน โชไม่รู้สึกอะไรเลย ตอนที่ได้เจอโชโกะที่เป็นโบ และเดาว่าน่าจะเป็นโชโกะ ก็มีแต่ความคิดสมน้ำหน้าและดูถูก ตอนที่รู้ว่าโชโกะมาแสดง mv โปรโมทเพลงของเขาก็ด้วย มีแต่ความคิดที่จะเยาะเย้ยอย่างสะใจ
แต่ความคิดที่โชมีต่อเคียวโกะมาเปลี่ยนแบบปุบปับก็ตอนที่เห็นเคียวโกะหลังจากแต่งหน้าแต่งตัวเป็นนางฟ้า
มันเหมือนกับว่า ก่อนจะรู้ว่าเคียวโกะแต่งตัวแล้วสวยผิดหูผิดตาเป็นคนละคน โชมองเคียวโกะเป็นเพื่อนสมัยเด็กกึ่งสาวใช้ เป็นคนที่อยู่ต่ำกว่า ไม่ใช่คนที่อยู่ในระดับเสมอกัน ในสายตาของโชตอนนั้น เคียวโกะจึงเหมือนไม่คู่ควรจะเป็นแฟนของเขา ต่อให้เคียวโกะเป็นคนเดียวที่เขาไม่ต้องปั้นหน้าเสแสร้งเวลาอยู่ด้วย แต่ตอนนั้นโชยังไม่เหนื่อยกับการต้องปั้นหน้าตลอดเวลาในฐานะซูเปอร์สตาร์ จึงไม่รู้สึกถึงคุณค่าของเคียวโกะในเรื่องนี้
หลังจากเห็นเคียวโกะหลังจากแต่งหน้าแต่งตัวเป็นนางฟ้า โชค่อยรู้สึกขึ้นมาว่าเคียวโกะมีคุณสมบัติที่คู่ควรจะเป็นแฟนเขาได้ (หลังแต่งหน้าแต่งตัวแล้วสวยกว่าโปจิริจมหู มาดก็สง่ากว่า) เลยเปลี่ยนใจเริ่มมารักเคียวโกะ บวกกับเคยชินกับการโดนเคียวโกะรัก + เอาใจมาตั้งแต่เกิด เลยคิดเอาเองว่าเคียวโกะยังคงเป็นของเขาอยู่ พอรู้ว่าเรนสนิทกับเคียวโกะมากถึงขั้นโทรมาหาในตอนที่เขาเริ่มเปลี่ยนใจมารักเคียวโกะ เลยรู้สึกเหมือนของเล่นชิ้นโปรดโดนคนที่เกลียดแย่งไป ยอมไม่ได้เฟ้ย
ก็น่าคิดเหมือนกันว่า ถ้าเรื่องกลายเป็นว่าเรนมาชอบเคียวโกะตอนที่ยังเป็นแบบกล่องมารร้ายยังไม่เปิด โชจะมีปฏิกิริยาหึงหวงแบบที่เป็นอยู่ในตอนนี้หรือเปล่า? ส่วนตัวคิดว่าไม่นะ โชอาจจะหัวเราะเยาะเรนที่ตาต่ำไปชอบผู้หญิงจืดชืดแบบเคียวโกะก็ได้ด้วยซ้ำ ซึ่งตรงจุดนี้น่าจะต่างจาก Bryce อย่างมาก
ถูกต้องนะคร้าาาาาา ใช่เลยพีหลี
ที่จริง ไบร์ทกะโช ก็ไม่ได้เหมือนกันทีเดียวจริงๆ แต่จุดที่คิดว่าเขาเหมือนกันคือ
ทั้งไบร์ทและโชตอนแรกไม่ด้รักอีกฝ่าย แล้วตอนหลังเปลี่ยนใจมารัก
ซึ่งอะไรที่เป็นสาเหตุให้เปลี่ยนนี่เป็นคือจุดสำคัญ นั่นคือการทำให้หันกลับมามองนั่นเอง
ไบร์ทนิสัยจริงดีกว่าโช เพราะไม่ใช่คนมองอะไรแต่เปลือกเหมือนโช(หลงตัวเอง)
ตอนที่หันกลับมาชอบนางเอกของเรื่อง(ก็ชอบที่ความคิดของชี) เลยดีกว่าโชที่รู้สึกนิสัยของเคียวโกะ
มาตลอดอยู่แล้วแต่ติดเปลือกนอกความสวยงามทำให้ไม่คิดจะชอบเคียวโกะ
พอเห็นเคียวโกะสวยได้ นั่นคือการเปลี่ยนมุมมอง อารมณ์ตาโช ตอนนั้นคงเซอร์ไพรส์มากที่เห็นเคียวโกะสวยได้
แต่ถ้าให้ถามว่าแค่เพราะเคียวโกะสวยทำให้โชถึงรักอย่างนั้นคงไม่ใช่ เพราะเราคิดว่าเคียวโกะเองก็ไม่ใช่เป็นคน
ที่แต่งออกมาสวยที่สุด สวยกว่าทุกคน คนในวงการอื่นหลายคนก็มีสวยเหมือนกัน อย่างโปจิริที่ตาโชคบมาแต่แรก
นั่นก็สาวสวยแต่ก็แค่สวยแต่ไม่เข้าใจโช เหมือนโชเองนอกจากเคียวโกะแล้วก็ไม่เคยโชว์เนื้อแท้ให้ใครเห็นเหมือนกัน
เหมือนจะรู้ว่าคนอื่นก็รักตัวเขาแต่เปลือกที่เขาแสดงออก มีแต่เคียวโกะเข้าใจโชมาตลอดรับโชได้ตลอด แต่เคียวโกะไม่สวยไง
แล้วคนอย่างโชเป็นพวกหลงตัวเอง ให้ตายคงไม่คิดจะคบคนที่ด้อยในแง่ภาพลักษณ์แน่ๆ
พอเคียวโกะสวยก็เลยเหมือนทุกอย่างใช่ อีกอย่างที่โชต่างจากไบร์ทมากคือ ตาโชยังหลงตัวเองอยู่เลยว่าเคียวโกะ
ยังชอบตัวเองอยู่(เข้าใจผิดจากที่รีโนบอกว่า ความเกลียดคืออีกด้านของความรัก) และก็เพราะหลงตัวเอง
เลยไม่เคยไปง้อของขอโทษเพื่อเอาเคียวโกะกลับมา เหมือนโชเองก็พอใจกับความสัมพันธ์แบบคู่กัดแบบนี้มากกว่า
ความสัมพันธ์แบบเดิม เพราะแต่เดิมเคียวโกะยอมโชตลอดเลย อาจจะทำให้โชรู้สึกเบื่อก็ได้ที่อีกฝ่ายยอมตลอด
ซึ่งส่วนตัวก็คิดว่าถูก หากอีกฝ่ายยอมตลอด(แม้จะยอมเพราะรัก) แต่ฝ่ายที่เหนือกว่าก็ไม่ได้พอใจหรอก
เพราะเห็นว่าฝ่ายที่ยอมน่าเบื่อ และไม่น่าสนใจได้ (คิดว่ามันเป็นเรื่องของ ศักดิ์ศรีน่ะ การที่เรายอมใครแสดงว่าเราลดศักดิ์ศรี
ของตัวเอง ลดความนับถือตัวเองลง เมื่อเราไม่นับถือตัวเอง ไม่รักตัวเอง ใครจะนับถือเรา และรักเรา ดังนั้นที่เคียวโกะทำมาตลอด
เพราะคิดว่า ทำเพื่อความรักอาจจะผิดก็ได้)
ส่วนตัวเลยเคยคิดว่า ถ้าไม่มีเร็น ความรักของคู่โชกับเคียวโกะ คงน่าสนใจดีแต่พอมีเร็นมาด้วยนี่ โช นายหมดสิทธิ์แล้วล่ะ ฮุฮุฮุ
อืม...โชนี่หลงตัวเองสุดๆ จริงๆ นั่นแหละ แต่ว่าเคียวโกะหลังแต่งหน้าแต่งตัวแล้วสวยกว่าโปจิริกับรูริโกะที่เป็นดาราวัยรุ่นที่กำลังมาแรงนี่ก็จัดว่าไม่ธรรมดาอย่างมากนะ โดยเฉพาะที่ดูสวยกว่ารูริโกะ (ถึงโชจะไม่เคยเห็นตอนแต่งประชันกับรูริโกะก็เถอะ)
พี่คิดว่าที่โชไม่ชอบเคียวโกะที่ยอมเขาตลอด คอยเอาใจเขาตลอด เป็นรสนิยมส่วนตัวของโชมากกว่านะ บวกกับที่ตอนนั้นโชไม่ได้รักเคียวโกะ เคยได้ยินไหมคำพูดทำนอง คนที่ไม่รักทำอะไรก็ขัดหูขัดตาไปหมด ส่วนคนที่ตัวเองรักทำอะไรก็ดูดีน่ารักไปหมด มันก็ทำนองนี้แหละ ขอแค่ไม่รักซะอย่าง อะไรก็ใช้มาเป็นข้ออ้างว่าเป็นข้อเสียได้หมดแหละ และเห็นด้วยที่ว่าโชชอบความสัมพันธ์แบบคู่กัด
ก็น่าคิดอยู่เหมือนกันว่าถ้าหลังจากนี้เคียวโกะกับโชได้เป็นแฟนกัน โชที่รู้แล้วว่าเคียวโกะแต่งหน้าแต่งตัวแล้วสวยมาก มีหนุ่มหล่อๆ ดังๆ มาชอบ + รอจังหวะแย่งจีบหลายคน + เป็นนักแสดงหาเวลาที่ได้เจอกันยากมากขึ้น ต่อให้เคียวโกะกลับมาช่างเอาใจเหมือนเดิม โชยังจะกล้าทำตัวหมางเมิน + รำคาญเคียวโกะแบบเมื่อก่อนอีกมั้ย
ถ้าไม่มีเร็น ความรักของคู่โชกับเคียวโกะ คงน่าสนใจดีแต่พอมีเร็นมาด้วยนี่ โช นายหมดสิทธิ์แล้วล่ะ <<< ถูกใจประโยคนี้สุดๆ ฮุๆๆ
ยินดีต้อนรับผู้ชื่ยชอบ Skip Beat คนใหม่ค่ะ ^__^
ที่สงสัยเรื่องเคียวโกะไม่ยอมเม็มเบอร์เรน ไม่ได้คิดว่าใจร้ายหรอกค่ะ แค่แปลกใจว่าทำไมถึงไม่เม็มเบอร์ไว้เพื่อให้โชว์ชื่อเวลาเขาโทรมา จะได้รู้ว่าเป็นใครไม่ผิดตัว ไม่ต้องมานั่งเดาว่าเป็นเรนหรือคุณซาวาระ ซึ่งการเม็มเบอร์คนที่มีการโทรติดต่อด้วยบ่อยๆ ถือเป็นเรื่องปกติสำหรับคนทั่วไป
ถ้าเคียวโกะตั้งให้ไม่โชว์เบอร์ อย่างนั้นทำไมตอนที่โชโทรมาแล้วไม่พูด เคียวโกะถึงเข้าใจผิดว่าเป็นเรนโทรมาหรือ? (พอเคียวโกะทักไปว่าคุณซึรูงะรึเปล่า โชก็รีบวางสายทันที)
เพิ่งเห็นเร็นโทรหาเคียวโกะแล้วขึ้นชื่อเร็นก็ในเล่ม 28 โน่น ถึงได้คิดว่าผ่านเหตุการณ์ช่วงวาเลนไทน์แล้วเคียวโกะคงเข็ดเรื่องใครโทรมาก็ไม่รู้ ไม่รู้ว่าใช่เร็นหรือไม่ใช่ ถึงได้ตัดสินใจเม็มเบอร์เร็นไว้ในที่สุดกันด่าคนพลาด (มั้ง 555)
ช่วงนี้ได้หยิบเล่ม 6-17 มาพลิกๆ ดูผ่านๆ แล้วได้ความคิดอย่างหนึ่งขึ้นมาเกี่ยวกับเดินเรื่องเพื่อให้ความสัมพันธ์ของเคียวโกะกับเร็นมีความก้าวหน้าขึ้น โดยเฉพาะพัฒนาการของความรู้สึกที่เร็นมีให้เคียวโกะ ไว้ค่อยมาเขียนต่อช่วงพักเบรกจากการแปลอีกที
ไม่ใช่เคียวโกะตั้งค่ะ หมายถึงผู้ที่โทรเข้ามาเป็นคนตั้งหน่ะค่ะ ไม่ให้แสดงเบอร์ (เรน,ซาวาดะ,โช) ถ้าจำไม่ผิด มีตอนที่เคียวโกะได้โทรศัพท์ใหม่ แล้วบอกว่าจะตั้งโทรศัพท์ตัวเองไม่ให้ไปโชว์เบอร์เวลาโทรไปหาคนอื่น กันพวกโรคจิตเอาเบอร์ไปหน่ะค่ะ
เอ๋ เราอธิบายถูกป่าวหว่าา แบบนี้นะค่ะคือเรามีโทรศัพท์ของเรา เราสามารถตั้งโทรศัพท์ให้ไม่โชว์เบอร์เราเวลาโทรหาคนอื่นได้หน่ะค่ะ เวลาโทรไปหาคนอื่น จะขึ้นว่า private call ที่เครื่องเค้าหน่ะค่ะ
โห เพิ่งรู้ว่ามือถือทำแบบนี้ได้ด้วย บางทีก็ได้รับเบอร์ที่ขึ้นว่า "เบอร์ส่วนตัว" เหมือนกันค่ะ แต่มักจะเป็นเบอร์ที่โทรมาจากต่างประเทศ
ว่าแต่เห็นเร็นโทรหาอยู่แค่ไม่กี่คน แถมโทรหาแต่คนที่สนิทกัน ไม่ก็ทำงานด้วยกัน ยังจะต้องตั้ง private call อีกหรือนั่น (ส่วนพวกโทรศัพท์จิปาถะ ยาชิโร่น่าจะจัดการให้ เร็นไม่ต้องโทรเอง)
มาว่ากันถึงการดำเนินเรื่องและพัฒนาการด้านความสัมพันธ์ของเคียวโกะกับเรน
เล่ม 1-5 เป็นช่วงที่เรนยังอคติกับเคียวโกะอยู่เพราะไม่ชอบแรงจูงใจในการเข้าวงการบันเทิงของเคียวโกะอย่างมาก (เพื่อแก้แค้นฟูวะ โช) จึงเรียกได้ว่าอยู่ในช่วงที่ทั้งสองฝ่ายต่างคนต่างไม่ชอบขี้หน้ากัน แต่ในเล่ม 4 เร็นได้รู้ว่าเคียวโกะคือ "เคียวโกะจัง" ที่เขาเคยพบโดยบังเอิญสมัยยังเด็ก และในเล่ม 5 เคียวโกะในร่างโบได้เห็นอีกบุคลิกหนึ่งของเร็นที่ตัวเธอไม่เคยเห็น ทำให้ต่างฝ่ายต่างมองเห็นข้อดีของอีกฝ่ายมาลบล้างอคติออกไปบ้าง
เล่ม 6-7 ช่วงที่ยาชิโร่เป็นหวัด เคียวโกะมาเป็นผู้จัดการแทน ตามด้วยเร็นติดหวัดมาจากยาชิโร่ โดยที่เคียวโกะช่วยดูแลตลอด เป็นอย่างที่น้อง KawaiiSusu พูดว่ามีไว้เพื่อให้เร็นได้ค่อยๆ ย่อยข้อมูลของเคียวโกะ ได้เปรียบเทียบเคียวโกะในอดีตกับปัจจุบัน และมองเห็นว่าลึกลงไปข้างในแล้วเคียวโกะไม่ได้เปลี่ยนไปจากคนที่เขาเคยรู้จักเมื่อสมัยยังเด็กและเคยประทับใจอย่างมากเลย เรียกได้ว่าเนื้อเรื่องช่วงนี้ทำให้อคติที่เร็นมีต่อเคียวโกะได้หายไปหมด และเริ่มมีใจให้เคียวโกะ
ความเห็นส่วนตัว : หลังจากเร็นหมดอคติที่มีต่อเคียวโกะแล้ว เหตุที่เร็นให้ความสนิทสนมกับเคียวโกะมากกว่าทุกคนเป็นเพราะว่าเมื่ออยู่ในชื่อ "ซึรุงะ เร็น" เขาไม่เคยเปิดใจให้ใครรู้จักตัวตนที่แท้จริงของเขา เท่าๆ กับที่ไม่คิดจะทำความรู้จักตัวตนที่แท้จริงของใครอย่างลึกซึ้ง แต่เคียวโกะเป็นข้อยกเว้น เพราะเขาเคยได้พบและได้เห็นนิสัย + ตัวตนที่แท้จริงของเคียวโกะมาก่อนแล้ว บวกกับช่วงที่ยังอคติกัน ตัวเขาเองก็แสดงแต่นิสัยแย่ๆ ที่ไม่เคยให้คนอื่นเห็นให้เคียวโกะได้เห็นตลอด สองข้อนี้ทำให้หลังจากหมดอคติแล้ว เร็นให้ความสนิทสนมเป็นกันเองกับเคียวโกะมากกว่าผู้หญิงคนอื่นๆ คงเพราะรู้สึกว่าเคียวโกะไม่ใช่คนอื่นคนไกล แต่เป็นคนที่เขารู้จักนิสัยดีมาแต่ยังเด็ก
เล่ม 7-8 เป็นช่วงที่เห็นได้ชัดว่าเร็นมองเห็นเคียวโกะพิเศษกว่าคนอื่น ตรงที่พอเคียวโกะโทรไปหาและฝากข้อความไว้ เร็นก็กดฟังทันทีแม้จะอยู่ในระหว่างทำงาน แถมพอข้อความขาดไป ยังมีการโทรกลับไปหาทันทีอีก ทำให้ยาชิโร่ประหลาดใจมาก แถมเร็นยังเริ่มออกอาการหึงเป็นครั้งแรกตอนที่จำเสียงโชที่แย่งมือถือเคียวโกะไปพูดตอบเขาได้
เล่ม 8-13 ช่วงแสดงเรื่อง Dark Moon ทั้งหมด เป็นช่วงที่เร็นรู้ตัวอย่างเต็มที่ถึงความรู้สึกที่ตัวเองมีให้เคียวโกะ แต่เพราะอดีตที่บล็อกตัวเร็นไว้ ทำให้เร็นไม่คิดที่จะสานต่อความสัมพันธ์นี้ และไม่คิดที่จะเผยความรู้สึกให้เคียวโกะรู้ ขณะที่ด้านเคียวโกะเองก็เริ่มรับรู้ถึงสัญญาณอันตรายในเรื่องการตกหลุมรักเรน จึงพยายามวางตัวออกห่างเพื่อเซฟหัวใจตัวเอง
เล่ม 14-17 เหตุการณ์รถไฟชนกันระหว่างเร็นกับโช แถมยังมีเรโน หนุ่มคนใหม่เข้ามาเกี่ยวข้อง จากเดิมที่เร็นตั้งใจจะไม่เผยความรู้สึกของตัวเองให้เคียวโกะรู้ กลายเป็นว่าการที่เคียวโกะโดนสต็อกเกอร์ตาม และโชกลายเป็นฮีโร่ที่ช่วยเคียวโกะไว้ได้ทัน ได้ทำให้ความตั้งใจนี้ของเร็นพังทลายลง เร็นทำถึงขนาดแอบฟังโชกับเคียวโกะคุยกัน พูดโกหกกันท่าเคียวโกะกับโชโดยยกยาชิโร่ขึ้นมาอ้าง ยอมกินข้าวเช้าสองรอบจนท้องอืดแทบอ้วก และยอมรับ (เลิกพูดปฏิเสธ) ความรู้สึกที่ตัวเองมีต่อเคียวโกะกับยาชิโร่ แต่ก็ยังไม่กล้าสารภาพรักกับเคียวโกะตรงๆ เพราะกลัวเคียวโกะจะเตลิดหนีไปเลย
เล่ม 17-19 เป็นการคลายปมของเร็นในเรื่องพ่อแม่ และเหมือนเป็นการเปิดตัวเคียวโกะให้ป๊ะป๋าของเร็นได้รู้จักไว้ล่วงหน้า รวมถึงเป็นการทำให้เคียวโกะได้รู้และเข้าใจถึงอดีตในวัยเด็กของเร็นก่อนจะมาเป็นคอร์นคนที่เธอรู้จัก
เล่ม 20 คลายปมของมาเรีย + เปิดตัวของขวัญราคาแพงที่เร็นแอบให้เคียวโกะ
เล่ม 21-23 เน้นการพัฒนาในเรื่องฝีมือการแสดงของเคียวโกะ + เปิดตัวตัวละครตัวใหม่
เล่ม 24-25 อีเวนต์วาเลนไทน์ จะว่าเป็นช่วงยืดล้วนๆ เพื่อเอาใจคนอ่านสาวๆ ก็ได้ เพราะในด้านความสัมพันธ์ของตัวละครแทบไม่มีอะไรคืบหน้า เว้นแต่การรุกของโชที่โดนการโต้กลับของเร็นตีซะกระจุย แต่ก็สนุกดี
เล่ม 26 เป็นต้นมา เป็นช่วงที่คนเขียนเริ่มแก้ปมสำคัญในใจของเร็นไปพร้อมๆ กับพัฒนาความสัมพันธ์ของเร็นกับเคียวโกะ
ส่วนตัวแล้วไม่เคยอ่านเรื่อง "บอดี้การ์ดสาวจอมซ่า" การ์ตูนเรื่องยาวก่อนหน้าเรื่อง Skip Beat ของคนเขียนคนเดียวกัน แต่ได้ฟังเพื่อนที่เคยอ่านมาแล้วและชอบมากเล่าเนื้อเรื่องให้ฟัง จึงลองไปเสิร์ชจากเว็บจีนดู ก็พบว่าหน้าตาของตัวร้ายสำคัญของเรื่องบอดี้การ์ดสาวคือเร็นดีๆ นี่เอง เหมือนเอาตัวร้ายในเรื่องนั้นมาเป็นพระเอกในเรื่องนี้ และจากที่ฟังเพื่อนเล่า + จากที่สแกนดูบางหน้าคร่าวๆ พบว่านิสัยของตัวร้ายซึ่งหลงรักแม่ของนางเอกและอกหักนั้น หลังจากที่เขาอกหัก ต้องสูญเสียผู้หญิงที่ตัวเองรักมากให้กับพี่ชายตัวเอง สิ่งที่เขาทำคือไปเข้ากับฝ่ายตรงข้าม ให้ความร่วมมือกับฝ่ายตรงข้ามทำลายพี่ชายของเขาเพื่อที่จะแย่งผู้หญิงที่เขารักกลับมาเป็นของเขาดังเดิม และถ้าจำไม่ผิด ดูเหมือนถ้าเขาแย่งกลับมาไม่ได้ เขายอมฆ่าเธอให้ตายแล้วฆ่าตัวตายตามเธอไป
เห็นอย่างนี้แล้วเลยเกิดความรู้สึกว่า จากที่อ่านเรื่อง Skip Beat ที่ในอดีต ตอนที่เร็นคบสาวโดยไม่ได้รัก พอสาวลองใจโดยบอกว่าชอบคนอื่น เร็นก็ยอมเป็นฝ่ายถอยเปิดทางให้แต่โดยดี แต่พอมาถึงคราวฝ่ายหญิงคือเคียวโกะ ทั้งที่ตั้งใจไว้แล้วว่าจะไม่เผยความรู้สึกให้เคียวโกะรู้และไม่คิดจะสานความสัมพันธ์ แต่พอรู้ว่าโชย้อนกลับมาหาเคียวโกะเท่านั้น เร็นก็หึงหน้ามืดทันที ความคิดที่ว่าจะไม่เผยความรู้สึกไม่สานความสัมพันธ์โดนโยนทิ้งไปทั้งหมด ไม่แค่พยายามไปกันท่าไม่ให้โชสารภาพรักกับเคียวโกะได้เท่านั้น ยังจงใจแสดงท่าให้ชวนเข้าใจผิดว่าเคียวโกะเป็นแฟนเขาอีก (เพียงแต่เคียวโกะซื่อบื้อไม่รู้เรื่อง) แล้วยังตอนอีเวนต์วาเลนไทน์ที่เคียวโกะโดนโชจูบจนคิดวนเวียนถึงแต่เรื่องนี้และโมโหหัวฟัดหัวเหวี่ยง เร็นก็เกิดอาการทนไม่ได้จนต้องคิดหาทางแก้ลำ (และทำได้สำเร็จ)
นั่นคือ พอฝ่ายหญิงเป็นเคียวโกะ เร็นไม่แม้แต่จะเปิดโอกาสให้เธอไปมองไปคิดถึงผู้ชายคนอื่นได้เลยด้วยซ้ำ ขนาดว่ายังไม่ได้เป็นแฟนกันเลย แถมพอเริ่มมีผู้ชายคนอื่นเข้ามาอยู่ในหัวเคียวโกะ เร็นก็รีบหาทางปัดหมอนั่นออกไปจากหัวของเธอทันที แล้วเอาตัวเขายัดเข้าไปแทน (555)
จากที่อ่านมาถึงตอนนี้ เร็นทั้งขี้หึงและขี้งอนมาก แถมเนื่องจากมีพ่อที่รักเดียวใจเดียวสุดๆ ก็คงได้พันธุกรรมมาด้วย บวกกับดูจากสไตล์การเขียนของคนเขียนจากในเรื่องบอดี้การ์ดสาวฯ ทำให้คาดเดาว่า ถ้าเร็นต้องอกหักโดยที่เคียวโกะไปหลงรักผู้ชายคนอื่นในเรื่อง เร็นคงไม่มีทางยอมถอยแต่โดยดี และผู้ชายคนที่เคียวโกะไปหลงรักนั่นมีหวังได้เงาหัวหายแหงๆ
ตอนที่ 189 ออกมาแล้ว
แต่ฟังว่าตอนที่ 190 จะออกวันที่ 5 ก.ค. กลายเป็นรายเดือนแทนรายปักษ์ไปจริงๆ ซะแล้ว
http://www.redfaces.net/read.php?tid-987.html
ว่าแต่ตอนที่ 189 นี่ คนที่ชอบตาโชคงจะดีใจ บทโชออกเยอะมาก ขณะที่เร็นไม่ออกเลย
เมื่อวานนี้นัดเจอพี่ชายกับครอบครัวที่สยามพารากอน เลยแวะไปคิโนะฯ เจอ SKIP BEAT ฉบับพิเศษของไต้หวันออกด้วย เลยสอยมา ข้างในมีสรุปเนื้อหา SKIP BEAT จนถึงจบเล่ม 21 ดังนี้ (แต่มีแอบแพล็มบางส่วนของเล่ม 22-23 มาด้วย)
1. เหล่านี้ของของเคียวโกะ เร็น โช คานาเอะ
- Profile
- ความสามารถในด้านต่างๆ ในตอนที่แรกปรากฏตัวในเรื่อง (before) และตอนปัจจุบัน (after) และมีการสรุปพัฒนาการในด้านต่างๆ เป็นก้าวๆ
- บทสัมภาษณ์
(ในบทสัมภาษณ์เร็น มีข้อหนึ่งถามว่ามีความสามารถพิเศษอะไร เร็นตอบว่า ตอนหกสูง สามารถใช้นิ้วข้างเดียวยันพื้นได้ ลองนึกภาพดูนะ การ "หกสูง" คือตีลังกาใช้สองมือยันพื้นทรงตัวแทนขา แล้วนิ่งค้างอยู่ในท่านั้น เร็นสามารถใช้นิ้วข้างเดียวยันพื้นแทนขารับน้ำหนักตัวทั้งหมดได้)
(และในบทสัมภาษณ์คานาเอะ มีข้อหนึ่งถามว่า ที่เคียวโกะเรียกคานาเอะว่า "โมโกะ" เพราะคานาเอะชอบพูดติดปากว่า "บ้าจริงเีชียว" ใช่ไหม? และมี * อธิบายว่า ในภาษาญี่ปุ่น คำว่า "บ้าจริงเชียว" อ่านว่า "โม" )
2. แนะนำโครงสร้างและการทำงานของ LME ตลอดจนสมาชิกในบริษัทที่มีบทเด่นๆ ในเรื่อง เช่น ท่านประธานลอรี่ มาเรีย ยาชิโร่ คู ฯลฯ
3. แนะนำคนในวงการบันเทิงของบริษัทอื่น เช่น โช โชโกะ โพจิริ V.G. ฯลฯ
4. รวมผู้กำกับในเรื่อง
5. รวมชุดคอสเพลย์ของท่านประธานลอรี่
6. เนื้อหาคร่าวๆ ของแต่ละเรื่องที่เคียวโกะและเร็นได้แสดง ซึ่งปรากฏในเรื่อง ได้แก่
- PV ของ Prisoner
- Dark Moon
- BOX R
- เรื่องที่เร็นไปแสดงตอนเป็นหวัด
- เรื่องที่เคียวโกะใช้แสดงทดสอบตอนแก้ปมของมาเรียในเล่ม 3-4
- เรื่องที่เคียวโกะทดสอบการแสดงแข่งกับรูริโกะในเล่ม 2-3
7. ผลโหวตตัวละครครั้งที่ 2 พร้อมคอมเมนต์ของคนโหวตหลายๆ คน และความเห็นของตัวละครต่อคอมเมนต์คนโหวตนิดหน่อย โดยลำดับที่ได้เป็นดังนี้
- ที่ 1 เคียวโกะ 2640 คะแนน
- ที่ 2 เร็น 2480 คะแนน
- ที่ 3 โช 471 คะแนน
- ที่ 4 ยาชิโร่ 436 คะแนน
- ที่ 5 คู 386 คะแนน
8. ผลโหวตฉากที่เป็นที่ชื่นชอบมากที่สุด
- ที่ 1 ฉากที่เร็นกับเคียวโกะซ้อมเล่นเป็นคัทสึกิกับมิสึกิกันที่บ้านเร็น แล้วเร็นเผยโฉมหน้าเจ้าราตรีเป็นครั้งแรก
- ที่ 2 ฉากที่เร็นกอดปลอบใจเคียวโกะที่นึกว่าคอร์นตายไปแล้ว
- ที่ 3 ฉากที่เร็นยืนหลบตรงบันไดแอบฟังเคียวโกะกับโชคุยกัน แล้วรีบเข้าไปกันท่าโชที่กำลังจะสารภาพรักกับเคียวโกะ
- ที่ 4 ฉากที่กล่องขังวิญญาณร้ายของเคียวโกะถูกเปิดออกในเล่ม 1
- ที่ 5 ฉากที่เร็นนอนหนุนตักเคียวโกะ
9. ตอนพิเศษ Lucky number "25" after หรือก็คือตอนพิเศษเนื้อหาต่อจากท้าย 20 งานปาร์ตี้ขอบคุณ ซึ่งเคียวโกะกับเร็นให้ของขวัญวันเกิดแก่มาเรีย โดยเคียวโกะให้เป็นตุ๊กตาเร็นแบบเหมือนตัวจริงขนาดย่อส่วน 1/2 ของตัวจริง
10. สัมภาษณ์คนเขียน
11. หน้าสี 8 แผ่น 16 หน้า
ไม่รู้เหมือนกันนะว่ามีโอกาสที่ฉบับแปลไทยของเล่มนี้จะได้วางแผงไหม เพราะทั้งเล่มตัวหนังสือเยอะมากมหาศาล ถ้าจะแปลคงต้องเสียเวลามากยิ่งกว่าแปลนิยายหนึ่งเล่มเสียอีก และไม่รู้ว่าจะออกมามีหน้าสีเหลือไหมด้วย
อ่านตอนใหม่เรียบร้อยแล้วค่ะ รอบนี้สแกนอิ๊งออกเร็วจริงอะไรจริง เมื่อคืนเช็คแล้วยังไม่ออก พอเปิดมาอีกทีตอนเช้า มาทั้งสแกนจีนทั้งสแกนอิ๊งเลย จะเร็วไปมั้ย (= =a)
ว่าแล้วว่ามิโมริต้องเป็นสายให้โชชัวร์ ล่อด้วยจูบอย่างดูดดื่ม... อืม... น่าสงสารมิโมริจริงๆ นะ
ฮาตรงที่พอเคียวโกะโดนโชบังคับลากเข้ารถก็ทำเป็นปิดหน้าปิดตาไม่ยอมให้ใครเห็น เอาผ้าเช็ดหน้ามาปิดปาก แต่สงสัยว่าวิญญาณอาฆาตเคียวโกะออกจะแรง ทำไมไม่มาหักกุญแจมือให้เคียวโกะหน่อยล่ะ (แต่เหมือนวิญญาณอาฆาตพวกนี้จะไม่ค่อยได้ผลกับโชมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว)
โชได้เรียกเคียวโกะมาด่าสมใจแล้วสิ แต่แรงเหมือนกันนะ "ผู้ชายซื้อเสื้อผ้าให้ผู้หญิงหมายถึงอยากจะเป็นคนถอดให้ดัวยตัวเอง" =[]=!!! พาหนูจิ้นไปไหนถึงไหนแล้วววววววว Orz
ถ้าเป็นอย่างงั้น แล้วไคน์กับเซ็ตสึล่ะ =w= (แต่เอาเถอะ คู่นี้เค้าค้ำคอร์มาตั้งแต่ต้นแล้ว)
ตอนหน้าน่าจะมีเหตุการณ์สำคัญหลายอย่างนะคะ องก์ใหม่เริ่มเปิดม่าน โช vs เร็น vs คิจิม่า vs โบ(เคียวโกะ) งานนี้เคียวโกะได้ยุ่งหัวปั่นแน่ๆ เลย
ปล. จะไม่หวังให้ออกกลางเดือนแล้วล่ะค่ะ เป็นรายเดือนไปแล้ว ทางที่ดี... ย้ายเล่มไปลงอีกเล่มเลยดีมั้ย = =a
"การที่ผู้ชายให้เสื้อผ้าผู้หญิงแปลว่าคิดจะเป็นคนถอดมันออก + คิดจะเมคเลิฟ" <<< ในเวอร์ชันแปลจีน โชพูดแบบนี้นะ ไม่ต้องจิ้นเลยแหละ
ส่วนไคน์กับเซ็ตสึ การซื้อเสื้อผ้าให้เป็นการแปะป้ายจองกลายๆ ของเร็นน่ะสิ
ฮาตรงเคียวโกะปิดหน้าปิดตาอย่างกับนินจาหรือบุคคลลึกลับเหมือนกัน ^^"
ตอนหน้า น่าจะมีแต่เคียวโกะกับโชอีกล่ะมั้งท่าทาง เล่นอยู่ในสถานีโทรทัศน์แบบนั้น
พูดถึงวิญญาณแค้นเคียวโกะ ตอนที่เคียวโกะยังเป็นศัตรูกับเร็นอยู่ วิญญาณแค้นไม่เคยโผล่ออกมาเล่นงานเร็นเลยสักครั้งเหมือนกันนะ
รอตอนที่เคียวโกะกลับไปเป็นเซ็ตสึอีกหนอย่างใจจดใจจ่อ...
เมื่อวาน admin-ta มาส่งงาน พี่เลยเล่าให้ฟังว่าเมื่อวันศุกร์ช่วงเย็นถึงดึกไปดูหนังมาสองเรื่องควบ คือ I MISS YOU รักฉัน อย่าคิดถึงฉัน กับ สโนไวท์&พรานป่า ดังนี้
รักฉันอย่าคิดถึงฉัน I MISS YOU หนังผีที่ติ๊กเจษฎาภรณ์ ผลดี แสดง ก่อนไปดูได้ทำการหาข้อมูลสปอยล์ตัวเองเป็นที่เรียบร้อย จึงพอจะรู้เรื่องในระดับหนึ่ง พอได้ดูเนื้อเรื่องจริง ระหว่างที่ดูก็เกิดอาการเอาไปโยงกับประสบการณ์ส่วนตัวตลอด เช่น
พอติ๊กโผล่มา ก็นึกถึงซึรูงะ เรน จากเรื่อง SKIP BEAT (แต่เรนหล่อกว่า)
พอหมอบี (นางเอก) โผล่มา ก็นึกถึงเคียวโกะว่าถ้าเจอแบบหมอบีจะเป็นไง แต่คิดอีกที เคียวโกะสั่งวิญญาณอาฆาตได้นี่หว่า ถ้าเป็นเคียวโกะ ฝ่ายที่ซวยคงกลายเป็นผีหมอนก 100% (หมอนกคือแฟนเก่าพระเอกที่กำลังจะแต่งงานกัน แต่เกิดอุบัติเหตุรถคว่ำกับพระเอกก่อนแต่งงานหนึ่งอาทิตย์ แล้วเสียชีวิตไปขณะที่พระเอกรอด)
admin-ta แสดงความเห็นบ้างว่า ดาราไทยที่หล่อพอและเหมาะจะเป็นซึรูงะ เรน ได้ มีแต่วิลลี่ แมคอินทอช คนเดียว หน้าวิลลี่ไปทางหวานคล้ายผู้หญิงเหมือนเรนด้วย ในด้านส่วนสูงของวิลลี่ก็โอเคสำหรับการเป็นเรน (187 cm) อาชีพก็นักแสดง + นายแบบเหมือนกัน เป็นลูกครึ่งฝรั่งเหมือนกันอีก แต่นิสัยของวิลลีกับเรนนี่...คนละเรื่องกันเลย
ส่วนดาราที่หล่อกว่าวิลลี่เท่าที่ ad,in-ta เคยเจอมา มีแต่โอ วรุฒ วรธรรม เมื่อสมัยเข้าวงการใหม่ๆ ที่แสดงหนังใหญ่เรื่องคู่กรรมเป็นโกโบริ เนื่องจากหลินโหม่วเคยไปดูมาทั้งคู่กรรมที่วรุฒแสดงและเรื่องแม่มดธันยาที่วิลลี่แสดงเป็นเรื่องแรกหลังเข้าวงการ ขอคอนเฟิร์มว่าช่วงนั้นวรุฒหล่อกว่าวิลลี่จริง
อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวคิดว่า ดาราชาย-หญิงที่สวย-หล่อที่สุดเท่าที่เคยเห็นมา ไม่มีใครเกินคู่พี่น้องแมคอินทอชในยุคที่บูมที่สุดเลย
รูปวิลลี่ แมคอินทอช สมัยหล่อที่สุด
http://women.kapook.com/view34031.html?p=8
http://topicstock.pantip.com/chalermthai/topicstock/2011/04/A10464987/A10464987.html
รูปโอ วรุฒ วรธรรม สมัยหล่อสุด
http://70-90memory.blogspot.com/2010/10/blog-post_29.html
http://sport.sanook.com/gallery/gallery/1092660/257224/
อย่างที่บางความเห็นของกระทู้ใน pantip กระทู้นั้นบอกนั่นแหละ ดาราไทยตอนนี้คนที่บอกกันว่าหล่อขั้นเทพ บางคนก็บอกหล่อ บงคนก็บอกไม่หล่อ แต่วิลลี่ แมคอินทอช ในยุคที่ดังที่สุด ทุกคนทั้งชายและหญิงเห็นด้วยเป็นเอกฉันท์ว่าหล่อจริง เพียงแต่จะตรงสเปคหรือไม่ตรงสเปคใครนี่ เป็นอีกเรื่อง
ปกติคำว่า "หล่อ" "สวย" ในสายตาแต่ละคนจะแตกต่างกัน แต่การที่ใครสักคนจะได้รับการยอมรับจากทุกคนว่า "หล่อ" "สวย" โดยไม่เกี่ยวกับว่าตรงสเปคหรือเปล่านั้น จากที่คุยกับ admin-ta พวกเรามีความเห็นดังนี้
คนคนนั้นต้อง
- หล่อหมดทุกมุม ทั้งหน้าตรงและหน้าด้านข้าง (หน้าด้านข้างของติ๊ก ตรงใต้จมูก เหนือปาก จะเป็นเส้นตรงลงมา ไม่สวย ต้องเป็นเส้นลาดออกในองศากำลังดีถึงจะสวย และติ๊กขนตาไม่สวย ไม่ยาวงอน)
- หล่อทั้งมองไกลๆ และมองใกล้ๆ
- เครื่องหน้าแยกมาดูแต่ละอย่างแล้วดูสวยทั้งหมด ไม่ว่าจะคิ้ว ตา จมูก ปาก แบบนี้จะทำให้คนคนนั้นเป็นคนที่ ดูเผินๆ ผ่านๆ ก็หล่อ/สวยมาก และยิ่งมานั่งเพ่งดีๆ ใกล้ๆ ก็ยิ่งหล่อ/สวย ซึ่งซึรูงะ เรน เป็นแบบนี้
- ถอดแว่นกันแดดแล้วหล่อกว่าใส่แว่น (ปกติคนที่ใส่แว่นกันแดดแล้วดูดีกว่าตอนถอดแว่นมีเยอะมาก เพราะหาคนที่ตาสวยมีเสน่ห์ดึงดูดได้ยาก แต่วิลลี่ แมคอินทอชเป็นคนหนึ่งที่ใส่แ้นกันแดดแล้วหล่อ แต่พอถอดแว่นยิ่งหล่อ)
แถมจากปากคำของใครต่อใครหลายคน วิลลี่ตัวจริงหล่อกว่าในจอทีวีหรือบนปกนิตยสารมาก ตอนดุวิลลี่แสดงเรื่องรักเดียวของเจนจิรา (มั้ง) เวลาพี่แกมองผ่านจอออกมาด้วยสายตาแบบที่เรนมองเคียวโกะ ขอบอกว่าละลายจริงๆ v_v" และเป็นดาราชายคนเดียวเลยมั้งที่ในความเห็นของหลินโหม่ว ไม่ว่าเรื่องนั้นจะสนุกหรือไม่ ขอแค่วิลลี่แสดง แค่ไปดูหน้าพี่แกอย่างเดียวก็คุ้มแล้ว
แต่นั่นหมายถึงวิลลี่ แมคอินทอชในยุคที่บูมที่สุดน่ะนะ
จากนั้นก็มาคุยกันถึงพวกดาราฝรั่งว่าใครบ้างที่หล่อ แล้วเสิร์ชไปถึงคีนู รีฟ ยิ่งดูยิ่งยังกับเรนเดินออกมา แต่คีนู รีฟ แสดงไม่ค่อยเก่ง ทำสีหน้าไม่เก่ง ที่สำคัญ ดวงตาของเขาไม่เด่นและดงดูพอ แต่นอกจากตาและฝีมือการแสดง ส่วนอื่นเป็นเรนได้สบาย แต่ถ้าพูดถึงหน้าตาของดาราฝรั่ง ที่เอาชนะวิลลี่ แมคอินทอชได้จริงๆ เห็นจะเป็น ออแลนโด บลูม ตอนที่แสดงเป็นเลโกลัสน่ะแหละ
บริดจ์ร็อกเค้าคนละสายงานกับเคียวโกะนี่คะ พวกนั้นเค้าเป็นวงดนตรีผสมกับพิธีกรวาไรตี้ โทรไปขอคำปรึกษาเรื่องการแสดงคงไม่ไหวหรอกค่ะ ^^"
ความจริงตามมารยาทที่ดี เคียวโกะควรจะเม็มเบอร์เร็นสิคะ แอบงงมากเลย = =" แต่หนูว่าบางทีเคียวโกะอาจจะจำเบอร์เร็นขึ้นสมองตั้งแต่ขอครั้งแรกก็ได้นะคะ ก็เลยไม่คิดจะเม็ม คุณเธอออกจะละเอียดละออ ช่างสังเกต ช่างจดช่างจำซะขนาดนี้ (ขนาดสัดส่วนร่างกายยังจำได้แม่นซะ)
เคียวโกะป้องกันข่าวลือไม่เป็นจริงๆ แหละค่ะ คงเพราะเป็นผู้หญิง + อ่อนประสบการณ์กับเรื่องทำนองนี้ด้วย หนูว่ากับฮิคารุคงไม่เท่าไหร่ เพราะรายนี้ปกติที่สุด เร็นคงยังไม่เป็นข่าวมาก เพราะเร็นเองก็ต้องป้องกันตัวเองในเรื่องนี้ด้วยด้วย เกิดเป็นข่าวกันขึ้นมาก่อนเวลาที่เหมาะสม เคียวโกะอาจจะเผ่นหนีไปเลยก็ได้ ต้องระวังสุดๆ ไม่ให้ก้าวพลาด
ที่น่ากลัวคือโชกับเรโน่ค่ะ เพราะสองคนนี้คล้ายกันตรงที่ไม่สนใจอะไรทั้งนั้น ฉันอยากได้ฉันจะเอาจะทำไม เคียวโกะเองก็แพ้ทาง (แบบว่ารับมือไม่ถูก) กับคนที่เข้าหาในลักษณะนี้ด้วยสิคะ ประเภทที่ว่าด่าฉอดๆๆ ยังไงก็ยังตื้อไม่เลิก แถมยังชอบใจอีก เป็นข่าวก็เป็นข่าวไปสิ ให้รู้กันทั่วบ้านทั่วเมืองไปเลย หนูว่าจะหนีจากประเภทนี้ได้คงต้องหาแฟนไปเลย ไม่ก็ประกาศแต่งงาน และก็ไม่แน่ว่าลักษณะนี้จะยอมเลิกราง่ายๆ ด้วยสิคะ (คิดว่าโชอาจจะยอม แต่เรโน่น่าจะไม่สน = =")
แต่น่ากลัวไปอีกแบบคือคิจิม่าค่ะ เพราะมาแบบเหนือเมฆทุกครั้ง แต่ละครั้งกระตุ้นความสนใจเคียวโกะได้ไม่น้อย แล้วใช้วิธีเข้าหาโดยใช้สิ่งที่เด็กผู้หญิงสนใจเข้าล่อ ทำเป็นคุยเหมือนเพื่อนแต่แอบจีบเนียนๆ หมอนี่เก่งกว่าเร็นซะด้วยซ้ำนะคะเรื่องนี้ ยิ่งเคียวโกะไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะจีบยิ่งระวังเรื่องการวางตัวยากมาก
สเปคเร็นกับฮิคารุใกล้เคียงกันจริงๆ แหละค่ะ อันที่จริงโดยเนื้อแท้แล้วเคียวโกะไม่เปลี่ยนไปจากเดิมเท่าไหร่หรอกค่ะ ยังห่วงเรื่องของคนอื่นมากกว่าเรื่องของตัวเองเหมือนเดิม ที่ต่างออกไปคือวิญญาณอาฆาตที่โผล่ออกมาหลังจากเคียวโกะโดนโชหักหลัง กับเป็นตัวของตัวเองมากขึ้น และมีความฝันให้ไล่ตาม แค่นั้นเอง ความจริงแล้ว โชเองต่างหากที่แทบไม่ได้เห็นเนื้อแท้ของเคียวโกะอีกเลยหลังจากสลัดรักเคียวโกะไปแล้ว ส่วนเรโน่ เพราะเข้าหาเคียวโกะแบบโรคจิต ก็เลยไม่ได้เห็นเช่นกัน คนอื่นได้เห็นจุดนี้ของเคียวโกะทั้งนั้นค่ะ
จะว่าไปหนูว่าโชก็แอบขัดแย้งในตัวเองเหมือนกันนะคะ เคียวโกะคนใหม่ที่โชเห็นก็แค่ลักษณะบางอย่างที่เปลี่ยนไปของเคียวโกะที่จะปรากฏเมื่ออยู่ต่อหน้าโชเท่านั้น จะว่าไป ถือว่าเป็นภาพมายาก็ได้นะคะ
ความจริงเคียวโกะเป็นคนที่โชอยู่ด้วยมาตั้งแต่เด็ก ไม่ต้องทำตัวเท่ต่อหน้าเคียวโกะ เคียวโกะตอนนั้นก็เห็นว่าโชเป็นเจ้าชายอยู่แล้ว แต่โชคงไม่ชอบความสัมพันธ์แบบคนที่คอยตามเอาอกเอาใจ ซึ่งมันก็ช่วยไม่ได้อีกแหละค่ะ เพราะเคียวโกะเองก็เด็กขาดความอบอุ่น เชื้อว่าต้อง "ทำงาน" ให้คนอื่นมีความสุขเพื่อแลกกับที่ยืนของตัวเอง เลยกลายมาเป็นแบบนี้ พอเคียวโกะหลุดพ้นจากจุดยืนแบบนี้มาได้เลยกลายเป็นคน independent ไปเลย
KawaiiSusu เข้าร่วมเมื่อ 6 ก.พ. 2555, 20:20
โพสต์เมื่อ 8 พ.ค. 2555, 11:42