ปัญหาของเร็นที่ศึกษาปัญหาตัวเองให้ถ่องแท้ไม่ได้ไม่ใช่เพราะตัวเองไปปิดกั้นอย่างเดียว แต่คงเพราะพยายามแก้ไขเองคนเดียวด้วยละมั่งคะ = =a เหมือนเวลาหนูทำโปรเจ็คต์ เวลาโค้ดแล้วติดปัญหา ถ้าแก้ไขเองไม่ได้ก็ถามเพื่อนถามคนรอบข้าง แปปเดียวก็มีคำตอบให้เราแล้ว หรือบางทีเวลาเพื่อนติดปัญหา บางทีตัวเองที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยไปเสนอวิธีแก้ปัญหาอื่นๆ ให้ ก็ได้คำตอบเหมือนกัน แต่อย่างว่าแหละค่ะ ปัญหาของเร็นไม่ใช่ปัญหาที่จะ "ปรึกษาใครก็ได้" ซะด้วยสิ = ="
แต่ก็นะ ท่านประธานอุตส่าห์ชวนไปดื่มชาด้วยก็ดันไม่ยอมไปซะอย่างงั้น อุตส่าห์มีคนรู้เรื่องเข้าใจสถานการณ์อยู่ใกล้ๆ ตัว ก็ยังไม่ยอมเล่าปัญหาให้ฟังซะด้วยสิ แต่ก็นั่นแหละค่ะ เร็นคงอยากจะผ่านปัญหานี้โดยใช้กำลังของตัวเองมากกว่า และก็คงไม่อยากจะรบกวนท่านประธานไปมากกว่านี้แล้วมั้งคะ
แต่มุราซาเมะไปขุดคุ้ยประวัติของ Cain Heel นี่อันตรายนะคะ เกิดรู้ไปถึงตัวจริงขึ้นมาคงแย่แน่เลย แค่นี้ปมในเรื่องก็เยอะมากแล้ว ถ้าเพิ่มเรื่องนี้ขึ้นมาอีกมีหวังเรื่องไม่จบพอดีแหละค่ะ = =" (แต่ก็ยังมีความเป็นไปได้นะคะ)
@peung
ความจริงเริ่มชอบตั้งแต่ตอนมาคัดตัวนักแสดง LME แล้วล่ะค่ะ ชอบตอนที่ให้ได้ยินเสียงโทรศัพท์แล้วแสดงปฏิกิริยาโต้ตอบ มันเป็นอะไรที่เจ๋งมากค่ะ มันวัดทั้งไหวพริบ สติ ความสามารถในการแสดง แล้วก็ประสบการณ์ที่เคยเกิดขึ้นกับคนด้วยค่ะ (ความจริงที่เคียวโกะไม่ผ่านก็เพราะสติหลุดไปนึกถึงโชมากกว่า ถ้าตั้งสติดีๆ กว่านี้หน่อยเสแสร้งไปก็อาจจะไม่ลงรูปนี้)
ส่วนมาติดจริงๆ คือตอนที่แปลงร่างใส่ชุดกิโมโนแสดงตรงข้ามกับเร็นเหมือนกันค่ะ เป็นอะไรที่ สุดๆ จริงๆ ฉากนั้นทำได้เจ๋งมาก ทั้งที่ตอนนั้นอ่านบนเว็บแท้ๆ (ตอนนั้นยังมีเว็บที่แปลมังงะเป็นไทยอยู่ ตอนนี้ถูกเก็บเรียบหมดแล้ว = =") พออ่านบนเว็บจบก็เลยไปงานหนังสือเหมามายกเซ็ตเลยค่ะ
จำได้ว่าเหมือนมีฉากเคียวโกะให้ของกิน(พุดดิ้ง)กับเรน (หลังเคียวโกะโดนขโมยจูบ)
ข้าพเจ้าเข้าใจว่านั่นคือของขวัญวันเกิดของเรนนะนั่น - -"
อ่าน scan แล้วไม่ชัวร์เท่าไหร่ด้วย ฮุฮุฮุ
เรื่องเหยียดผิวในเมกา จนทุกวันนี้เขาก็ยังมีอยู่เหมือนกันแต่ไม่แสดงออกโจงแจ้งเท่านั้นเพราะผิดกฏหมาย แต่ไม่ใช่ว่าไม่มีหรอก มันแค่โดนซ่อนอยู่ข้างใต้เท่านั้น
LINDBERGH @
เยลลี่ไวน์นั่นคือของขวัญวาเลนไทน์ที่เคียวโกะให้เรนแทนช็อกโกแลต เพราะคิดว่าเรนคงไม่ชอบกินของหวาน และคงมีคนให้ช็อกโกแลตเรนเยอะมากแล้วต่างหากน่ะ ^^
KawaiiSusu @
เรนน่าจะไปปรึกษาจิตแพทย์นะ (พูดเล่น ขืนทำงั้นก็ไม่ใช่การ์ตูนรักแล้วสิ หุหุหุ)
แต่มุราซาเมะไปขุดคุ้ยประวัติของ Cain Heel นี่อันตรายนะคะ เกิดรู้ไปถึงตัวจริงขึ้นมาคงแย่แน่เลย แค่นี้ปมในเรื่องก็เยอะมากแล้ว ถ้าเพิ่มเรื่องนี้ขึ้นมาอีกมีหวังเรื่องไม่จบพอดีแหละค่ะ = =" (แต่ก็ยังมีความเป็นไปได้นะคะ)
ใช่ อันตราย แต่พี่ว่าแค่ปมที่มีอยู่ เรื่องนี้ก็มีความเป็นไปได้สูงที่จะยาวทะลุ 50 เล่มแล้วนะ
ความจริงเริ่มชอบตั้งแต่ตอนมาคัดตัวนักแสดง LME แล้วล่ะค่ะ ชอบตอนที่ให้ได้ยินเสียงโทรศัพท์แล้วแสดงปฏิกิริยาโต้ตอบ มันเป็นอะไรที่เจ๋งมากค่ะ มันวัดทั้งไหวพริบ สติ ความสามารถในการแสดง แล้วก็ประสบการณ์ที่เคยเกิดขึ้นกับคนด้วยค่ะ
ตอนนั้นก็ชอบเหมือนกัน ^^
ยังมีอีกตอนที่อ่านแล้วฮามากคือหลังจากเคียวโกะแสดงเป็นคุองจบแล้ว ไปคุกเข่าขอโทษเรนเรื่องเรียกชื่อเรนห้วนๆ ในกองถ่าย Dark Moon แล้วเรนลงใจถามว่าตอนนั้นเคียวโกะเรียกเขาว่าอะไร เพราะอยากให้เคียวโกะตอนไม่ได้แสดงเป็นคุองเรียกชื่อเขาตรงๆ บ้าง ผลคือเคียวโกะทำท่าจะคว้านท้องสำเร็จโทษตัวเองเป็นการขอโทษ ขำกลิ้งจริงๆ
ไปหามาอ่านแล้วค่ะ สนุกมาก ๆ เลย
ขอบคุณนะคะ ที่แนะนำเรื่องสนุก ๆ อย่างนี้ให้อ่านกัน
แล้วไม่ทราบว่าถ้าอยากอ่าน scan eng ที่เห็นคุยกันนี่้
ต้องไปหาอ่านที่ไหนค่ะ เพราะตอนนี้มีความรู้สึกใกล้จะลงแดงแล้ว
(ไปหาอ่านที่ร้านเช่าค่่ะ อ่านถึงเล่ม 25 เอง)
เป็นคนที่ชอบพระเอกแบบเรน มาก อ่านแล้วเลยแอบอินตามไปด้วย
ส่วนบทที่นางเอกเล่นนี่ ชอบใจบท ฮงโก มิโอะ สุด ๆ รู้สึกเหมือน
เป็นตัวจริงนางเอกยังไงไม่รู้ แต่บท นางฟ้าที่กลายเป็นนางมารร้าย
นี่ก็ทำเอาโชอึ้งไปเลย รู้สึกสะใจมาก
ตัวละครเรโนของวงบีกูล นี่ก็โรคจิตได้ใจ ถ้าไม่น่ารังเกียจ
ขนาดนั้นนี่ จริง ๆ ก็เหมาะกับนางเอกมาก เพราะมีพลังวิญญาณ
มองเห็นพลังของนางเอก น่าจะเข้ากับนางเอกได้ง่าย เหมาะจะเป็น
เพื่อนกับนางเอก แต่ไม่รู้เนื้อเรื่องจะไปในทิศไหนนะ เพราะถ้าเป็นเพื่อน
กัน เรื่องมันก็จะง่ายไป แถมไม่สนุกอีก
รู้สึกทึ่งกับความรักและทุ่มเทในการแสดงของพระเอกจริง ๆ
อย่างตอนที่พระเอกป่วยจนไม่มีสติ แล้วนางเอกต้องใช้การ
ตอบโต้บทเพื่อให้พระเอกเปิดประตูห้องหรือเปลี่ยนเสื้อผ้า
ส่วนตอนนี้ อยากดูพัฒนาการ การแสดงของนางเอก ในบทต่าง ๆ
อ่านเรื่องนี้แล้ว รู้สึกเหมือนอ่าน หน้ากากแก้ว (เฉพาะตอนที่นางเอก
ต้องเล่นให้ถึงอารมณ์ของตัวละคร)
จะว่าไปนางเอกก็มีโชคที่ดีมากในการแสดงละคร(โชคก็เป็นความ
สามารถอย่างนึง:มีตัวละครหลายตัวในเรื่องพูดไว้) เพราะบทที่ได้รับ
มักจะเป็นบทที่นางเอกมีความสามารถในด้านนั้น ๆ อยู่แล้ว เช่น
ตอนที่อยู่แผนก love me แล้วต้องแสดงละครบทคุณหนู แข่งกับ
นางเอกในเรื่องที่เอาแต่ใจ ต้องแสดงบทชงชา และท่าทางการยืน
เดิน ของคุณหนู ซึ่งนางเอกเคยฝึกมาก่อน ก็เลยทำได้(เนื้อเรื่องก็
สมเหตุสมผลดีด้วย)
หรืออย่างตอนที่แสดงบท นางฟ้าที่ต้องกลายเป็นมาร เพราะเกลียดโช
อยู่แล้วเลยง่ายหน่อย
หรือบทคอร์น ตอนเด็ก ที่แสดงได้เหมือนมาก เพราะว่าจริง ๆ แล้ว
นางเอกเคยเจอตัวจริงตอนเด็ก ๆ (แม้นางเอกจะไม่รู้ก็เถอะ)
แต่แน่นอนที่กว่านางเอกจะอินกับบทก็ต้องใช้เวลาพัฒนาฝีมือและ
ทำความเข้าใจกับ background ของตัวละครด้วย ทำให้รู้สึกสมเหตุ
สมผลกับการที่นางเอก แสดงได้ดีกว่าคนอื่น
เป็นเรื่องที่ตลกจริง ๆ อ่านแล้วช่วยคลายเครียดได้มากเลย
ขอบคุณอีกครั้งค่ะ
ตอนนี้ซื้ออ่านเล่ม 26 มาอ่านแล้ว มีความเห็นว่า
1. ฉบับไทยแปลเรื่องนี้ได้ถูกต้องกว่าฉบับจีนมาก มีหลายจุดที่อ่านเทียบกับฉบับจีนไม่ว่าจะแบบเป็นเล่มของไต้หวันหรือแบบสแกน
2. ฉบับไทยมีบางจุดที่เกลาสำนวนยังไม่ดีจริง แต่เทียบกับข้อดีของการแปลแล้วก็โอเคอยู่นะ
3. อันนี้ความเห็นส่วนตัว คิดมาตั้งแต่อ่านเล่มแรกๆ แล้วว่า เกลียดการอุทานว่า "อุ๊ก" มาก ปกติใครเขาอุทานกันแบบนี้หรือไง ที่เคยเห็นและรู้สึกเป็นธรรมชาติ น่าจะเป็น "อึก" หรือ "อึ๊ก" นะ เจอ "อุ๊ก" ทีไรอ่านสะดุดทุกที ทำลายบรรยากาศโคตรมาหลายครั้งแล้วไอ้คำอุทานเนี้ย -"-
chaluntharee @
ส่วนบทที่นางเอกเล่นนี่ ชอบใจบท ฮงโก มิโอะ สุด ๆ รู้สึกเหมือนเป็นตัวจริงนางเอกยังไงไม่รู้ แต่บท นางฟ้าที่กลายเป็นนางมารร้ายนี่ก็ทำเอาโชอึ้งไปเลย รู้สึกสะใจมาก
ชอบหมดทุกบทที่เคียวโกะแสดงค่ะ แต่ชอบที่สุดถึงเล่ม 25 คือบทนัทสึ เพราะเปลี่ยนบุคลิกเคียวโกะไปโดยสิ้นเชิง ^^
ส่วนหลังจากอ่านสแกนถึงปัจจุบัน ชอบบทเซ็ตสึกะที่สุดค่ะ
ตัวละครเรโนของวงบีกูล นี่ก็โรคจิตได้ใจ ถ้าไม่น่ารังเกียจขนาดนั้นนี่ จริง ๆ ก็เหมาะกับนางเอกมาก เพราะมีพลังวิญญาณมองเห็นพลังของนางเอก น่าจะเข้ากับนางเอกได้ง่าย เหมาะจะเป็นเพื่อนกับนางเอก แต่ไม่รู้เนื้อเรื่องจะไปในทิศไหนนะ เพราะถ้าเป็นเพื่อนกัน เรื่องมันก็จะง่ายไป แถมไม่สนุกอีก
ปัญหาอยู่ที่น่ารังเกียจเกินไป โรคจิตเกินไป (ชอบนอนในโลง) แถมความหล่อความเท่สู้เรนไม่ได้นี่แหละค่ะ
รู้สึกทึ่งกับความรักและทุ่มเทในการแสดงของพระเอกจริง ๆ อย่างตอนที่พระเอกป่วยจนไม่มีสติ แล้วนางเอกต้องใช้การตอบโต้บทเพื่อให้พระเอกเปิดประตูห้องหรือเปลี่ยนเสื้อผ้า
อันนี้เห็นด้วยอย่างแรง
ส่วนตอนนี้ อยากดูพัฒนาการ การแสดงของนางเอก ในบทต่าง ๆ อ่านเรื่องนี้แล้ว รู้สึกเหมือนอ่าน หน้ากากแก้ว (เฉพาะตอนที่นางเอกต้องเล่นให้ถึงอารมณ์ของตัวละคร)
คิดตรงกันเลยค่ะ แต่ชอบเรื่องนี้มากกว่าหน้ากากแก้ว เพราะถือว่าเดินเรื่องเร็ว ไม่ดอง + พายเรือในอ่าง
จะว่าไปนางเอกก็มีโชคที่ดีมากในการแสดงละคร(โชคก็เป็นความสามารถอย่างนึง:มีตัวละครหลายตัวในเรื่องพูดไว้) เพราะบทที่ได้รับมักจะเป็นบทที่นางเอกมีความสามารถในด้านนั้น ๆ อยู่แล้ว เช่น ตอนที่อยู่แผนก love me แล้วต้องแสดงละครบทคุณหนู แข่งกับนางเอกในเรื่องที่เอาแต่ใจ ต้องแสดงบทชงชา และท่าทางการยืนเดิน ของคุณหนู ซึ่งนางเอกเคยฝึกมาก่อน ก็เลยทำได้(เนื้อเรื่องก็สมเหตุสมผลดีด้วย)
หรืออย่างตอนที่แสดงบท นางฟ้าที่ต้องกลายเป็นมาร เพราะเกลียดโชอยู่แล้วเลยง่ายหน่อย
หรือบทคอร์น ตอนเด็ก ที่แสดงได้เหมือนมาก เพราะว่าจริง ๆ แล้วนางเอกเคยเจอตัวจริงตอนเด็ก ๆ (แม้นางเอกจะไม่รู้ก็เถอะ) แต่แน่นอนที่กว่านางเอกจะอินกับบทก็ต้องใช้เวลาพัฒนาฝีมือและทำความเข้าใจกับ background ของตัวละครด้วย ทำให้รู้สึกสมเหตุสมผลกับการที่นางเอก แสดงได้ดีกว่าคนอื่น
เพราะอย่างนี้จนถึงเล่ม 25 ถึงได้ชอบตอนนางเอกแสดงเป็นนัทสึมากที่สุด เพราะไม่ใช่บทที่นางเอกชอบและถนัดเลยต่างกับบทอื่นที่เคยแสดงมา แต่นางเอกกลับสามารถแสดงได้เข้าถึงบทบาท 100%
ในเล่ม 27 จะมีตอนที่เรน (กับยาชิโร่และคนในกองถ่าย Dark Moon บางคน) ได้เห็นเคียวโกะตอนแต่งเป็นนัทสึ แล้วตกตะลึงไปเลย เพราะสวย + ดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้นเยอะ แล้วเรนก็แสดง skill ก้าวในพริบตาพาเคียวโกะวาร์ปหนีไปไกลเกือบสิบเมตรเพื่อกันสนุ้กไม่ให้คิชิมาเห็นเคียวโกะตอนเป็นนัทสึ เป็นการกันไว้ก่อนแก้ ลดจำนวนชายหนุ่มที่มีแววว่าจะกลายมาเป็นศัตรูความรักไปหนึ่งคน เอิ๊กๆๆ
เทียบกับหน้ากากแก้วแล้ว SKIP BEAT เรียกได้ว่าเดินเรื่องเร็วกว่าเยอะน่ะ...
ส่วนปฏิกิริยาของเรนตอนเห็นเคียวโกะเดินควงมากับคิชิมา ไม่ใช่แค่เสียหน้าเฉยๆ หึงสะบัดอีกต่างหาก ถึงขนาดเล่นลูกไม้เปลี่ยนลำดับสัมภาษณ์ไปให้สัมภาษณ์พร้อมกับเคียวโกะโดยยกชื่อท่านประธานลอรี่ขึ้นมาอ้างแหละนะ ขำชะมัด
นี่ถ้าตอนนี้มีการสัมภาษณ์เรนโดยถามว่ามีสาวที่ชอบหรือยัง หนนี้เรนจะตอบว่ายังไงหว่าอยากรู้ (หนก่อนตอนยังไม่รู้ตัวว่ารักเคียวโกะเห็นตอบปฏิเสธไปทีแล้วว่ายังไม่มีคนที่ชอบ)
เมื่อคืนลองเปิดดูผ่านๆ เล่ม 1-12 พบว่าเล่ม 11-12 แปลห่วยมาก หลายจุดที่อ่านสแกนจีนแล้วน่าจะแปลถูก ส่วนเวอร์ชันไทยแปลผิด เช่นในเล่ม 12 ตอนที่เคียวโกะเอาของบนชั้นวางแล้วตกลงมา เรนรับไว้นั่นน่ะ ในสแกนจีนเขาแปลความคิดของเรนในตอนนั้นว่า เรนจับความรู้สึกของคัทสึกิได้ว่า การที่เผลอใจบีบมือไปแล้วรีบคลายออกนั่นแหละที่แสดงให้เห็นถึงว่าคัทสึกิรักมิสึกิ เหมือนตัวเขาตอนนี้ที่เผลอกอดไปแล้วรีบปล่อย (ส่วนหลังจากที่เรนปล่อยแล้วเกิดอะไรขึ้นต่อ คงไม่ต้องพูดนะ 555555) แล้วเล่ม 11-12 ก็มีทั้งคำผิด แปลไม่ครบ แปลชื่อคอนเป็นก็อน และลืมใส่คำพูดในช่องคำพูด เรียกว่าแปลห่วยที่สุดในทุกเล่มที่อ่านมาแล้วมั้ง ทั้งที่คนแปลและเรียบเรียงก็คนเดียวกับเล่มที่แปลดีก่อนหน้านี้ (1-17 คนแปลคนเดียวกัน เล่ม 18 เป็นต้นไปเปลี่ยนคนแปล) ถ้าว่าคนแปลคนละคนกัน เลยแปลชื่อ "คอน" กลายเป็น "ก็อน" นะจะไม่ว่าเลย นี่ก็คนแปลคนเดิมแปลแท้ๆ ยังแปลชื่อออกมาไม่เหมือนกันอีก ไม่เข้าใจมาตรฐานการแปลของคนแปลคนนั้นเลยจริงๆ
ถ้าเร็นโดนสัมภาษณ์ว่ามีคนที่ชอบรึยังอีกรอบ.... งานนี้ตอบยากเหมือนกันนะคะ จะพูดชื่อเคียวโกะออกสื่อก็ไม่ได้ จะใบ้ออกสื่อก็ไม่งาม เดี๋ยวต้องมีคนขุดคุ้ยชัวร์ค่ะ หนูว่าเร็นคงปฏิเสธไปอีกรอบนั่นแหละค่ะ แต่ถ้ามีคนถามสเป็คอาจจะออกมาเป็นเคียวโกะเป๊ะๆ เลยก็ได้นะคะ หุหุ
เรื่องแปลผิด... ถ้าให้ชัวร์เทียบสามแหล่งเลยก็ได้นะคะ ไทย จีน อังกฤษ (เอิ้กๆๆ) ที่เลือกมาน่าจะเป็นจุดที่สแกนไทยแปลผิดค่ะ
Eng หน้า 8/33 ตอนที่ 71
...No... Wait... This is the reason...!
Instead hugging her, I just let her fall... by hugging her tightly then suddenly releasing her, this is called "can't help but hugging tight".
This is, the reason why I keep on getting NGed...!! Because I did not expression well on this, My True Feelings.
คำแปลจากสแกนอิ๊ง
...ไม่... เดี๋ยวก่อน... นี่แหละเหตุผล...!
แทนที่จะกอดเธอ ฉันกลับปล่อยให้เธอร่วงลงไป โดยกอดเธอเอาไว้แน่นแล้วรีบปล่อยทันที นี่เรียกว่า ช่วยไม่ทันแต่กอดไว้แน่น
นี่คือ เหตุผลที่ทำให้ฉันถูกรีเทคซ้ำแล้วซ้ำเล่า...!! เพราะฉันไม่ได้แสดงออกในฉากนี้ได้ไม่ดี, ความรู้สึกที่แท้จริงของฉัน
ส่วนตัวอ่านสแกนอิ๊งตรงนี้แล้วแปลมาก็ยังงงๆ อยู่นิดหน่อยค่ะ คิดว่าจุดนี้ที่เล่มไทยแปลผิดอาจจะเพราะประโยคต้นฉบับญี่ปุ่นยากแก่การแปลด้วยส่วนนึง ตัวคนแปลอาจจะไม่เข้าใจประโยคนั้น ก็เลยด้นแปลไปตามสถานการณ์ด้วยส่วนนึง
แต่ชื่อคอร์นเป็นก็อน อันนี้ให้อภัยไม่ได้จริงๆ ค่ะ = ="
แป้ง @ อยู่ในเล่ม 12 Act.67 Deep Shock หน้าที่ 4 กับ 8 นับมาจากหลัง (เริ่มนับจากหน้าสุดท้ายของตอน)
KawaiiSusu @ ตรงช็อตที่พี่ยกตัวอย่างมา มีแต่ฉบับสแกนของจีนจริงๆ ที่อ่านแล้วความหมายเวิร์คสุด เพราะแม้แต่ฉบับเป็นเล่มยังแปลออกมาประมาณของไทยเหมือนกัน (แต่ดูจากการแปลฉบับเป็นเล่มเวอร์ชันไต้หวันที่แปลผิดในเล่ม 26 พี่ว่าฝีมือคนแปลก็ไม่น่าเชื่อถือเท่าไหร่)
ฉบับสแกนของจีนเขาแปลงี้ :
ซึรูงะ : (คิดในใจ) "...ไม่...เดี๋ยวก่อน...นี่แหละคือสาเหตุ...!! เทียบกับการกอดเธอที่ตกลงมาและรีบปล่อยทันทีแล้ว หลังจากกอดซะแน่นแล้วค่อยปล่อยกะทันหันแบบนี้ต่างหากที่คือการ 'เผลอกอดแน่นอย่างห้ามใจไม่อยู่'!! นี่แหละคือสาเหตุที่เราถูก NG...!! เพราะว่าเราไม่ได้สื่อความรู้สึกที่แท้จริงของตัวเองออกมาในรายละเอียดปลีกย่อยแบบนี้"
อ๋อ รู้แล้วล่ะ ในตอนนี้ฉากนี้ ในนิตยสารกับรวมเล่มจะต่างกันอยู่ โดยในรวมเล่มจะวาดเพิ่มมา 1 หน้า และคำพูดในใจของซึรูงะมีการเปลี่ยนให้ลืมเรื่องการแสดงเป็นคัทสึกิไปเลย เพราะงี้เลยมีแต่ในสแกนของจีนที่คงเอาของในนิตยสารมาที่ต่างออกไปจากฉบับอื่น
เรื่องนี้เดินเรื่องเร็วกว่าหน้ากากแก้วมากจริงอย่างที่คุณหลินโหม่วว่าค่ะ
แต่เรื่องหน้ากากแก้ว จะเน้นเรื่องพัฒนาการในการเล่นละครของนางเอกมากกว่า
สำหรับskip beat คนเขียนเคยเขียนบอกเล่าในเล่มว่า ไม่อยากลงรายละเอียด
ในวงการบันเทิงมากนัก แต่โดยส่วนตัวคิดว่า คนเขียน แต่งเรื่องออกมาได้ดีมาก
ไม่น้อยหรือมากเกินไป มีให้ลุ้นตลอด กำลังดีเลย
ชอบปฏิกิริยาของเรนที่หึงนางเอกมากที่สุด ทำให้รู้สึกว่าลุ้นดี ว่าเมื่อไรนางเอกจะรู้สึก
ถึงความรู้สึกของเรน แต่ขนาดแค่โดนหอมแก้มนิดเดียว ยังปั่นป่วนขนาดนั้น
ไม่ได้รู้ตัวเลย ว่าจริง ๆ แล้ว ตัวเองน่าจะแอบรักเรนเข้าแล้ว แต่ยังคิดหาเหตุผลอื่น
มากลบเกลื่อนอยู่ได้ จริง ๆ เล้ย คิดแล้วก็อดกลุ้มใจแทนเรนจริง ๆ
ช่วงนี้กลับไปอ่านจอมนางคู่บัลลังก์เป็นรอบที่เท่าไรไม่ได้นับ อ่านกี่รอบก็ยังสนุกทุกครั้ง เฮ้อ อยากเป็นป๋ายพิงถิงจริง ๆ ทั้งฉลาด ทั้งเข้มแข็ง แหะ แหะ แอบนอกเรื่อง skip beat ไปนิดนึง
สำหรับskip beat คนเขียนเคยเขียนบอกเล่าในเล่มว่า ไม่อยากลงรายละเอียด
ในวงการบันเทิงมากนัก แต่โดยส่วนตัวคิดว่า คนเขียน แต่งเรื่องออกมาได้ดีมาก
ไม่น้อยหรือมากเกินไป มีให้ลุ้นตลอด กำลังดีเลย
เห็นด้วยค่ะ ^^ สัดส่วนเนื้อเรื่องช่วงต่างๆ ในเรื่อง SKIP BEAT ค่อนข้างโอเคเลย ช่วงดราม่าน่าเบื่อที่อ่านรอบแรกสนุกดี แต่ขี้เกียจอ่านซ้ำมีไม่มากเท่าไหร่
ชอบปฏิกิริยาของเรนที่หึงนางเอกมากที่สุด ทำให้รู้สึกว่าลุ้นดี ว่าเมื่อไรนางเอกจะรู้สึก
ถึงความรู้สึกของเรน แต่ขนาดแค่โดนหอมแก้มนิดเดียว ยังปั่นป่วนขนาดนั้น
ไม่ได้รู้ตัวเลย ว่าจริง ๆ แล้ว ตัวเองน่าจะแอบรักเรนเข้าแล้ว แต่ยังคิดหาเหตุผลอื่น
มากลบเกลื่อนอยู่ได้ จริง ๆ เล้ย คิดแล้วก็อดกลุ้มใจแทนเรนจริง ๆ
คงเพราะเรนเพอร์เฟคเกินไป เป็นสุภาพบุรุษใจดีกับทุกคนอย่างเสมอภาค บวกกับเคียวโกะเคยอกหักมาแล้วจนกลัวเจ็บ จึงไม่กล้าคิดเข้าข้างตัวเองน่ะแหละค่ะ แล้วก็คงเป็นประมาณเพื่อนสนิทต่างเพศที่บางทีถึงจะเปลี่ยนจากรักแบบเพื่อนมาเป็นรักแบบชายหญิง แต่เพราะการเป็นเพื่อนยืนยาวไปได้ตลอดชีวิต แต่เป็นแฟนเลิกรากันได้ง่าย และถ้าเปลี่ยนจากเพื่อนมาเป็นแฟนแล้วเลิกคบกัน แม้แต่ความเป็นเพื่อนก็อาจจะต้องสูญเสียไปด้วย เคียวโกะจึงไม่กล้าเสี่ยง เพราะไม่อยากสูญเสียความสัมพันธ์แบบรุ่นพี่รุ่นน้องที่ยั่งยืนในตอนนี้ไปก็เป็นได้
ส่วนจอมนางคู่บัลลังก์ ขอสารภาพว่าเนื่องจากดิฉันเขียนนิยายสงคราม เคยอ่านตำราพิชัยสงคราม และเคยอ่านประวัติยอดแม่ทัพในประวัติศาสตร์จีนตัวจริงมาแล้วหลายคน จึงรู้ดีว่าฉากสงครามในเรื่องจอมนางคู่บัลลังก์และฉูเป่ยเจี๋ยกระจอกมาก ตอนอ่านที่คนเขียนพยายามบอกว่าพระเอกเก่งอย่างนั้นอย่างนี้ เลยไม่ค่อยอินเท่าไหร่ค่ะ v_v"
คิดว่ายังไม่แน่นะคะว่าเคียวโกะจะปลอมเป็นโบไปหาเร็นรึเปล่า เพราะเคียวโกะเหมือนรับรู้เองว่าต่อให้เป็นโบ เร็นก็ไม่น่าจะบอกปัญหาของตัวเองออกมาให้โบฟังง่ายๆ (อย่างตอนถามเรื่องคนรักในช่วงดาร์คมูน พอพูดถึงเรื่องนั้นขึ้นมา แล้วเร็นทำสีหน้าแบบที่เห็นในตอนล่าสุด เคียวโกะไม่กล้าถามต่อเลยแหละค่ะ)
แต่ถ้าปลอมไปเพื่อถามเรื่องเด็กสาวมัธยมก็ไม่แน่อีกเหมือนกันแหละค่ะ มีความเป็นไปได้ซะด้วย
ความจริงแล้วเริ่มคิดนิดหน่อยนะคะ ว่าคนเขียนอาจใช้เนื้อเรื่องช่วงนี้ ขมวดปมใหญ่สองปมแล้วแก้พร้อมกันเลยรึเปล่า เพราะการที่เร็นจะผ่านปัญหาตัวเองได้ต้องใช้แรงใจที่จะได้จากเคียวโกะมากทีเดียว แล้วเคียวโกะเองก็ต้องทุ่มเทหัวใจมากกว่านี้เพื่อให้เร็นยอมเปิดใจ (เรื่องปัญหาของตัวเอง) มากขึ้นด้วย
ซึ่งตรงนี้ก็เลยแอบคิดว่า คนเขียนจะทำให้เคียวโกะเลือกจะเปิดกล่องหัวใจตัวเอง แก้ปัญหาของเคียวโกะเองเรื่องความรักไปพร้อมกันด้วยรึเปล่า
ก็ยังเชื่อว่าคนเขียนคงอยากจะยกปมนี้เอาไว้เป็นปมสุดท้ายของเรื่องนะคะ แต่ก็คิดว่าไม่แน่เสมอไป จริงมั้ยคะ เพราะในตัวเคียวโกะยังมีปมเรื่องอื่นอีกตั้งหลายปม
ส่วนตัวคิดว่าจริงๆ แล้ว เคียวโกะจะล้างแค้นโชได้ก็ต่อเมื่อสลัดเรื่องของโชได้จนหมดแล้วมากกว่า หรือพูดง่ายๆ คือเลิกคิดแก้แค้นโช (และถ้าโชรู้ว่าตัวเองไม่มีความหมายกับเคียวโกะอีกต่อไปคงจะคลั่งไปเลยมั้งคะ) ซึ่งตอนนี้เคียวโกะก็เริ่มก้าวผ่านเรื่องของโชได้ในระดับนึงแล้วล่ะค่ะ
ปล. เห็นด้วยค่ะว่าฉากสงครามของจอมนางคู่บัลลังก์อ่อนมาก ป๋ายพิงถิงฉลาดกว่าฉูเป่ยเจี๋ยมากกกกกกก และไม่ค่อยเห็นด้วยกับตรรกะเรื่องนี้ที่ว่าความรักเหนือทุกสิ่งทุกอย่าง ตัวละครหลายตัวในเรื่องเลยดูอ่อนแอไปเลยแหละค่ะ (หรือว่าเพราะชีวิตเหอเสียสุขสบายมาแต่เด็ก เฮียแกเลยไม่เหมาะกับเส้นทางของทรราชย์???) (ถึงคิดว่าม่านม่านมีพระเอกเป็นหลิวเจว๋นี่แหละดีแล้วแหละค่ะ เพราะจื่อหลีก็เหมือนกับฮ่องเต้คนอื่น เลือกอำนาจไว้ก่อนความรัก)
ปัญหาเรื่องสองบุคลิกของเรนหนักเกินไป เรนคงไม่มีทางบอกโบหรอก แต่เรื่องสาวม.ปลายที่ชอบนี่เรนอาจจะบอกก็ได้นะ
คิดว่าปมเรื่องเคียวโกะรู้ตัวว่ารักเรนคงไม่เคลียร์ในตอนนี้หรอก น่าจะไปเคลียร์ท้ายเรื่องมากกว่า
ส่วนโช เชิญคลั่งไปตามสบาย หุหุหุ
หยิบ SKIP BEAT มาพลิกดูใหม่หมดตั้งแต่เล่มแรก พบว่ายาชิโร่เคยบอกเคียวโกะว่าเรนรักเคียวโกะ แต่เคียวโกะฟังแบบหูซ้ายทะลุหูขวาไม่รับเข้าหูเลย เรโนเองก็เคยบอกรักแบบคนทั่วไปไม่มีทางตีความผิดพลาด แต่เคียวโกะก็ตีความไปอีกอย่างได้จนเรโนทึ่ง
ดังนั้นคิดว่า ต่อให้เรนบอกรักตรงๆ เคียวโกะก็อาจจะตีความไปในทางอื่นและไม่เชื่อก็ได้นะ
อ่านทวนซ้ำแล้วขำตอนที่เรนเข้าไปขวางที่โชคุยกับเคียวโกะตามลำพังตรงบันไดในโรงแรม แล้วจบลงด้วยเรนยอมกินข้าวเช้ารอบสองจนท้องอืดทรมานแทบตาย นึกถึงเรนสมัยวัยรุ่นที่คบแฟนกี่คน พอเขาลองใจว่าไปมีคนใหม่ เรนก็ยอมปล่อยง่ายๆ โดยไม่คิดรั้งไว้ มาคราวเคียวโกะ ยังไม่ทันเป็นแฟนกันเลย พอโชทีู่พูดได้ว่าเป็นแฟนเก่ากลับมาแสดงท่าว่าจะขอคืนดีสานสัมพันธ์เหมือนเดิม พี่ท่านก็กันท่าซะสุดยอด แสดงให้เห็นว่าเคียวโกะต่างกับสาวอื่นที่เรนเคยคบมาสุดๆ ชนิดเทียบกันไม่ได้เลย
จะได้เคลียร์ปมของเคียวโกะไปพร้อมกันหรือไม่ ที่แน่ๆ คือ จบเนื้อเรื่องท่อนนี้ไปแล้ว ความสัมพันธ์เคียวโกะเร็นคงพุ่งไปอีกหลายขั้นเลยแหละค่ะ
เรโนคงต้องใช้ความพยายามอีกหน่อยแหละค่ะที่จะบอกรักเคียวโกะ นอกจากเซนส์เรื่องความรักของเคียวโกะจะตายด้านแล้ว การแสดงออกของเรโนในเรื่องนี้มันดูโรคจิตตั้งแต่ต้นแล้ว ต่อให้เรโนใช้คำพูดที่ตรงกว่านี้ เคียวโกะคงไม่มีทางตีความไปในทางรักๆ ใคร่ๆ ของคนทั่วไปแน่ๆ ค่ะ
ส่วนเรื่องยาชิโร่บอกว่าเร็นรักเคียวโกะ ตอนนั้นเคียวโกะมัวแต่ไปคิดถึงเรื่องมิโอะเลยไม่ได้ฟังมั้งคะ (แต่ก็ไม่แน่เนาะ เพราะปฏิกิริยาของเคียวโกะในการปิดกั้นเรื่องความรักทำงานได้ดีมากซะด้วย ขนาดตอนที่เร็นพยายามชมเคียวโกะที่แปลงโฉมเป็นนัทสึยังถูก reaction จากสมองส่วนหลังของเคียวโกะบล็อกเอาไว้เลย)
กรณีเร็นบอกรักเคียวโกะ เคียวโกะคงพยายามตีความในแบบอื่นและไม่ยอมเชื่อจริงๆ แหละค่ะ ไม่ก็คิดว่าเร็นต้องล้อเธอเล่นๆ แน่ สมองกับหัวใจของเคียวโกะไม่ค่อย Sync กันด้วยในเรื่องนี้ (เป็นห่วงเป็นใยเร็นออกนอกหน้าจนคนอื่นเค้ารู้กันหมด แต่เจ้าตัวดันไม่คิดจะยอมรับเอง)
ตอนที่เร็นยอมท้องอืดเพราะกินข้าวสองรอบก็ขำเหมือนกันค่ะ เดิมทีเป็นคนกินน้อยอยู่แล้ว (ยังสงสัยอยู่เลยว่าพี่แกไปเอาเรี่ยวแรงมาจากไหน) ยังดันทุรังกันข้าวแบบคนกระเพาะเหล็กกินอีก (เคียวโกะที่รักคะยั้นคะยอให้กิน จะไม่กินได้ไงล่ะ)
ทำไงได้ล่ะค่ะ คนที่เร็นเคยคบเมื่อก่อน เร็นไม่ได้รักจริงๆ นี่คะ คงเป็นเพราะฝ่ายหญิงมาบอกรักก็เลยลองคบดู (ฮา) สุดท้ายก็ไม่ใช่ซักคน พอเค้ามาลองใจเลยปล่อยให้เค้าไปแบบงงๆ คนจริงจังอย่างเร็น ลองมารักจริงซะอย่างก็ต้องเต็มที่ ไม่ยอมให้ใครมาแย่งไปหรอกค่ะ
ยังแอบนึกอยู่เลยว่าถ้าเร็นถูกเคียวโกะหักอก เร็นจะทำยังไง
แต่พี่ชอบคุยแบบเจาะลึกนะ เพราะมีแต่เรื่องที่มีความลึกมากพอเท่านั้นที่จะคุยแบบเจาะลึกได้ ^^
ส่วนตัวคิดว่าช่วงแรกที่เรนเข้าวงการในญี่ปุ่น ด้านมืดที่แม้แต่ตัวเองยังพยายามปิดผนึกมันไว้ไม่กล้าไปแตะต้อง จะศึกษามันให้ถ่องแท้คงจะยากอยู่นะ แต่มันก็คล้ายคนที่เคยอกหักอย่างแรงจนกลัวที่จะรักอีกครั้ง แล้วทิ้งแผลนั้นไว้ไม่ไปแตะต้อง ปล่อยให้เวลาช่วยรักษามันเอง ผ่านไปสักห้าปีพอเริ่มไม่เจ็บแล้วก็คิดจะย้อนกลับมารักษาโรคกลัวความรักอย่างจริงจัง จนกว่าจะได้ลองทดสอบดู เจ้าตัวจะไม่มีทางรู้หรอกว่าเมื่อเผชิญหน้ากับสิ่งนั้นอีกครั้ง ตัวเองจะรับมือได้ดีหรือแย่แค่ไหนยังไง และเมื่อได้เผชิญหน้าอีกครั้งแล้ว ก็เหลือทางเลือกแค่สองทางคือสู้ต่อไปเรื่อยๆ หรือถอยหนีอีกรอบ และถ้าเลือกอย่างหลัง ก็ไม่รู้เหมอนกันว่าอีกนานแค่ไหนที่จะรวบรวมกำลังใจหวนกลับมาสู้ได้อีกครั้ง ซึ่งครั้งที่สองนี่อาจจะต้องใช้เวลานานกว่าห้าปี แล้วแน่นอนว่าเจ้าช่วงเวลานานกว่าห้าปีที่ว่านี้ ไม่ต้องหวังเลยว่าความสัมพันธ์กับเคียวโกะจะก้าวหน้าถึงขนาดคบกันเป็นแฟนได้ ดังนั้นจะว่าเรนมาถึงทางตันแล้วก็ได้ มีแต่ต้องสู้ต่อไปอย่างเดียว ถอยไม่ได้เด็ดขาด
พี่ว่ามุราซาเมะไม่น่าจะหยุดแค่นั้นหรอก แต่น่าจะทำอะไรไปอีกแบบที่ไม่ใช่ไปท้าทาย Cain Heel ตรงๆ เขาน่าจะสงสัยนะว่าคนแบบนี้จะเป็นผู้ร้ายหนีคดีฆ่าคนอะไรมาหรือเปล่า ดูฝีมือต่อสู้ + จิตสังหารแรงซะขนาดนั้น อาจจะมีการพยายามถามพยายามขุดคุ้ยประวัติของ Cain Heel ก็ได้
อ้างอิงจาก : peung
อ่าน เรื่องนี้เหมือนกันค่า ชอบมากๆๆๆ เลย ถึงตอนแรกๆ ที่ดูจะรู้สึกว่า "เรื่องอะไรฟระ ไม่นาดูเลย" ก็เถอแต่พอเริ่มเข้าช่วงที่เคียวโกะได้แต่งตัว แบบญี่ปุ่นสินะตอนแรก ก็เริ่มสนุกค่ะ ตอนนี้ก็กำลังแปลลงเว็บอยู่เหมือนกัน ^^
เหมือนกันเลยค่ะ เริ่มรู้สึกสนุกสุดๆ ก็ตอนที่เคียวโกะเริ่มแสดงแทนรูริโกะเป็นเจ้าหญิงญี่ปุ่นนั่นแหละค่ะ แล้วขำก๊ากสุดๆ ก็ตอนที่เรนวิ่งไล่กวดตามเคียวโกะด้วยสีหน้าสุภาพบุรุษที่สุดในโลกและมาดสง่างามจนไล่ต้อนเคียวโกะไปจนมุมที่หน้าห้องน้ำหญิง
ว่าแต่ถึงขนาดแปลลงเว็บเลยเหรอ ผู้คลั่งไคล้ตัวจริงจริงๆ รบกวนขอลิงค์หน่อยได้ไหมคะ? จะเข้าไปทัศนาเว็บ
หลินโหม่ว เข้าร่วมเมื่อ 24 ม.ค. 2555, 17:27
โพสต์เมื่อ 9 เม.ย. 2555, 06:05